รัฐธรรมนูญห้าศูนย์ กีตาร์ห้าสาย
มหาวิทยาลัยวันศุกร์
และร้านกางแปลง รัชดาฯ 32




ลองวีคเอ็นด์ย่อมลองสตอรีย์ จากเหตุรถราติดโคตรทุกเส้นทางที่ใช้ ตั้งแต่อโศก สุขุมวิท แยกอสมท.เพชรบุรี วิภาวดี ยังถือว่าโชคดี ที่อุตส่าห์ลากชีวิตไปถึง “ชมรมวันศุกร์” เมื่อทุ่มเศษ ทั้งๆ ที่ตกปากรับคำ คุณสุพจน์ แจ้งเร็ว บรรณาธิการนิตยสารศิลปวัฒนธรรม หรือ “พี่พจน์” ของพวกเราเอาไว้ตั้งแต่สี่ห้าโมงเย็นแล้วว่า “เดี๋ยวไป”

วงเล็บ เกี่ยวกับ “ชมรมวันศุกร์” ถ้าสนใจ ลองคลิกเมนูขวามือ my contents แล้วคลิกหัวข้อเรื่อง “คุณดื่มวงการไหน” มีที่มาที่ไปแต่ไม่มีสาระอะไรให้อ่านบ้างบางส่วน : )
......
ยามนั้นพลบค่ำแล้ว ไฟวอมแวมกำลังงามตา ฉันพบว่าที่นั่งประจำของชมรมเรา ฯ คับคั่งด้วยแขกเหรื่อแมนล้วนเต็มโต๊ะ นอกจากจะมี “พี่พจน์” ที่เพิ่งกลับจากเรือนนวดแผนไทยที่พี่ท่านใช้บริการเป็นประจำ ก็ยังมี“ท่านวรแซม” หรือ อาจารย์ วรศักดิ์ มหัทธโนบล อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นเจ้าของคอลัมน์ “เงาตะวันออก” ในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ รวมถึงเป็นสมาชิกขาประจำของชมรมเราอีกท่านหนึ่ง
ในแต่ละศุกร์ อาจารย์มักจะมาเปิดประเด็นเผ็ดร้อนถกเถียงกันจนวงกระเจิง ฮากระจาย อย่างล่าสุดอาจารย์เคยเปิดประเด็น “ผู้หญิงไทยทำไมต้องลูบก้นก่อนนั่ง” อะไรทำนองนั้น ก็ทำเอาฉันต้องถกเถียงกับท่านจนแทบไม่มีเวลาดื่มกินทีเดียวเชียว
....
วันนี้นอกจากอาจารย์แซมแล้ว เรายังมีคณาจารย์ มาร่วมวงด้วยหลายท่าน ซึ่งแต่ละท่าน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เยี่ยมยุทธ์จากรั้วจามจุรีและท่าพระจันทร์ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ไชยันต์ ไชยพร ,อาจารย์วีระ สมบูรณ์ ,อาจารย์พวงทอง รุ่งสวัสดิทรัพย์ ภวัครพันธุ์- อาจารย์นิติ ภวัครพันธุ์ (อาจารย์พวงทองกับอาจารย์นิติ พาหนุ่มน้อยตัวเล็กมาด้วย) รวมถึงอาจารย์ธาวิต สุขพานิช แห่งสำนักจักรวาลวิทยาท่าพระจันทร์ด้วยอีกคน คณาจารย์เยอะแยะขนาดนี้ ชมรมวันศุกร์ของเราจึงคล้ายจะเป็นมหาวิทยาลัยวันศุกร์ไปกลายๆ
.....
พี่พจน์บอกว่า บรรณาธิการบริหารมติชนสุดสัปดาห์ หรือที่ปรึกษาตลอดชีวิตของทีมงานนิตยสารฟรีฟอร์ม “เพิ่งกลับไปก่อนเอ็งมาถึงแป๊บเดียวเอง”และที่เพิ่งกลับไปก่อนหน้านี้ด้วย ก็ได้แก่ อาจารย์ธเนศ วงศ์ยานนาวา อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,อาจารย์ศิริเพ็ชรทฤษณาวดี อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาจีน คณะศิลปะศาสตร์,ธรรมศาสตร์ ฉันฟังแล้วรู้สึกเสียดายเป็นอันมาก อย่างอาจารย์ธเนศนั้น เคยได้อ่าน ได้ยินพี่ๆ ในวงเราเชิดชูกิติศัพท์ของท่านมานาน แต่ยังไม่มีโอกาสได้เจอสักที

หลายอาจารย์ในวงเราวันนี้ ฉันเคยมีโอกาสได้พบปะพูดคุยมาบ้าง จึงพอจะคุ้น แต่บางท่านก็เพิ่งเจอกันครั้งแรก อย่างอาจารย์ธาวิต สุขพานิช จากท่าพระจันทร์ ฉันเห็นหน้าทีแรกก็ต๊กกะใจ นึกว่า อาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ มานั่งร่วมวงกะเราด้วย

อาจารย์ธาวิตนั้นจิ๊กโก๋มาก เมื่อฉันทักว่า "อาจารย์หน้าเหมือนอาจารย์นิธิมากเลยนะคะ" อาจารย์ธาวิตยักไหล่ ยกลูกมะพร้าวอ่อนขึ้นจิบน้ำ แล้วบอกว่า "โอ๊ย ผมหนุ่มกว่า แล้วก็หล่อกว่าอาจารย์นิธิตั้งเยอะ"

นานๆ ที จะมีโอกาสได้นั่งอยู่ท่ามกลางคณาจารย์มากมายขนาดนี้ ในคืนนี้ฉันจึงยิงคำถามคาใจแบบไม่ยั้ง ว่าก็ว่ากันตั้งแต่เรื่องรัฐธรรมนูญฉบับในดวงใจ อาจารย์ธาวิต ชอบรัฐธรรมนูญปี 2517 ด้วยเหตุผลว่า “เป็นฉบับที่ดีที่สุด” เสียดายที่เขาไม่ได้เอามาให้โหวตคราวนี้น่ะสิ'จารย์

อะไรสักอย่าง ที่ทำให้ฉันฝังหัวมาตลอดว่า ฝั่งนักวิชาการเขาคง “โหวต โน” ให้กับรัฐธรรมนูญ’ 50 อย่างไม่มีข้อกังขา ฉันจึงเซอร์ไพรส์มาก เมื่ออาจารย์ไชยันต์ ไชยพร คนผมยาวที่เคยฉีกบัตรเลือกตั้งจนได้ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในประเทศไทยมาแล้ว (แถมมาวันนี้อาจารย์แซมยังบอกให้พวกเราระวังตัวดีๆ เพราะบางทีอาจารย์ท่านอาจจะฉีกบิล!) บอกกับฉันว่า อาจารย์ตั้งใจที่จะ “โหวต รับ” รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ด้วยเหตุผลสามข้อ ซึ่งฉันจำไม่ได้แล้วว่ามันอะไรบ้าง

เซอร์ไพรส์ตามมาติดๆ ก็คือ อาจารย์วีระ สมบูรณ์ คนสำนักสีชมพูที่เดียวกับอาจารย์แซม แถมยังเป็นคอลัมนิสต์ของมติชนสุดสัปดาห์เหมือนกันด้วย อาจารย์วีระเคยแวะเวียนมาวงเราอยู่บ้าง แต่มักจะนั่งฟังเป็นส่วนใหญ่ แต่คืนนี้อาจารย์วีระบอกฉันว่า " รัฐธรรมนูญก็เหมือนนิตยสารล่ะครับ มันก็จะมีฉบับใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ บังเอิญผมชอบรับนิตยสาร ก็เลยตั้งใจว่าผมจะโหวตรับครับ เพราะอยากรู้ว่ารับแล้วมันจะเป็นยังไงต่อ จะมีอะไรดีขึ้นกว่าตอนนี้ไหม”

ยิ่งดึก ประเด็นยิ่งแตก ฉันก็รีบฉวยโอกาสแทรกคำถามส่วนตั๊วส่วนตัว เช่นว่า “อาจารย์คะ ในวงการหนังสือ เห็นเขาว่าโฆษณาไม่เข้า เพราะลูกค้าไม่อยากใช้เงิน เขาว่าปีนี้จะมีนิตยสารต้องปิดตัวหลายเล่ม แล้วก็มีปิดโรงงาน มีเลย์ออฟพนักงานออกมาเรื่อยๆ อาจารย์ว่ามันจะแย่กว่าสมัยฟองสบู่แตกอย่างที่เขาว่ากันไหมคะ”
.....
ฉันเองก็ทำหนังสือ ทำการค้าการขายกับเขาบ้างเล็กน้อย เราคิดเองว่างานของเราปีนี้ดีกว่าปีที่ผ่านมาตั้งเยอะ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเราจะบ้าคิดไปเองคนเดียวหรือไม่ วันนี้เอง เพิ่งมีคนโทรมาบอกว่าหนังสือเล่มนั้นเล่มนี้ปิดตัวแล้วนะ ฉันก็เลยรู้สึกกังวลลึกๆ ในใจ ภายในเรานิ่งได้ แต่สภาพภายนอกนี่สิมันจะยังไงกัน
....
บางทีเราอาจจะดูเหมือนว่ายังโชคดี แต่เอาเข้าจริง เราจะหายใจต่อไปได้อีกกี่วัน ถ้าบ้านเมืองเราเป็นแบบนี้ แล้วเพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมวงการของเราล่ะ จะเป็นอย่างไร

อาจารย์ธาวิตตอบทันทีทันใดว่า “คงไม่หรอก เพราะหลายปีมานี้ ระบบต่างๆ มันวางไว้แข็งแกร่งมาก ที่จะกระทบตรงๆ บ้างตอนนี้ก็พวกนำเข้าส่งออกนั่นแหละ”

แม้อาจารย์จะบอกว่า "จักรวาลวิทยา" หมายถึงยังมีหลายอย่างในจักรวาลที่ยังไม่รู้ และฉันไม่รู้หรอกว่า คำตอบของอาจารย์จะตัดสินอะไรได้มากน้อยแค่ไหน แต่ฉันรู้อย่างหนึ่งว่า หลังจากได้ฟังคำตอบนั้นแล้ว ฉันก็กินดื่มได้รสชาติดีขึ้นเยอะ!


“อาจารย์คะ แล้วอาจารย์คนนั้นที่อยู่สายวิพากษ์เหมือนกัน แต่ทำไมเขาไม่มาเข้ากลุ่มจักรวาลวิทยากับพวกอาจารย์ด้วยล่ะคะ" ฉันอาศัยลูกชุลมุนยิงคำถามนั้น

อาจารย์ธาวิตตอบทันทีว่า “โอ๊ย รายนั้นแกทนฟังคนอื่นวิพากษ์ตัวแกไม่ได้หรอก” ในขณะที่อาจารย์ไชยันต์ก็เสริมว่า “แกวิพากษ์คนอื่นได้ แต่ไม่ชอบให้คนอื่นมาวิพากษ์ตัวแกหรอก แกรับไม่ได้”

อ๊ะ อ๊ะ อาจารย์กลุ่มนี้เท่โคตรเลยเน้อ ฉันนึกในใจ ถามจริง ตอบตรง ไม่มีเก๊ก ไม่มีกั๊ก ความรู้แน่นปึ้กแบบไม่มีข้อกังขา แถมยังหาญกล้า ไม่ห่วงหล่อ ไม่ห่วงสวย ผู้คนแบบนี้แหละที่ร่วมสนทนาด้วยแล้วมันส์ …เพราะเราก็จะคุยกับพวกเขาเหล่านั้นแบบไม่กั๊กเหมือนกัน วงสนทนาเช่นนี้มักก่อประโยชน์ยืดเยื้อทางปัญญาดีนัก

ด้วยเหตุนี้ คืนวันศุกร์ของชมรมเราจึงยาวนานอีกคืนหนึ่ง

ยิ่งดึก ยิ่งคึกคัก เพราะเราจะมีเพื่อนพ้องน้องพี่สมาชิกขาประจำทยอยออกมาจากตึกมติชนเข้าสมทบวงเราอีกหลายชีวิต ผลัดกันถาม ผลัดกันตอบ ยิงมุกแตก ฮากระจาย ความเคร่งเครียดจากเดินทาง รวมถึงความเหนื่อยล้าจากการงานมาตลอดสัปดาห์หายเป็นปลิดทิ้ง

ก็ด้วยเหตุนี้เอง ไม่ว่าจะมีธุระติดพันแค่ไหน ดึกดื่นเพียงใด ฉันจึงไม่ยอมพลาดคืนวันศุกร์ของชมรมเราอย่างเด็ดขาด แม้ว่าบางครั้งจะคึกคักขนาดคุยกันจนฟ้าแจ้งจางปางคาตาก็เคยมาแล้ว

ดึกดื่น งานเลี้ยงของเราก็ยังไม่มีแววจะเลิกรา ในตอนหนึ่งของการสนทนา อาจารย์ไชยันต์บอกฉันว่า อาจารย์วีระเล่นดนตรีเก่งมาก "ขนาดพี่จิ - จิรพรรณ อังศวานนท์ ก็เคยชมว่าเก่งมาก " ฉันเลยขอให้ “ดลลี่” พนักงานเสิร์ฟดีเด่นของเราและของร้าน ไปหยิบกีตาร์ในร้านมาให้อาจารย์หน่อย ดลลี่ก็หยิบมา ปรากฏว่ามันเป็นกีตาร์ที่มีสายเหลือเพียงห้าสาย

แต่ขอโทษนะ...แม้ว่ากีตาร์จะให้สายมาเพียงเท่านี้ ก็มิอาจปิดกั้นฝีไม้ลายมือระดับเทพของท่านอาจารย์วีระได้ คืนนั้นฉันลองขอเพลงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Take Five ,The Girl from Ipanema และอีกหลายเพลงของ Antonio Carlos Jobim รวมถึงเพลงแจ๊สบรรลือโลกอีกมากมาย ปรากฏว่าอาจารย์วีระเล่นได้หมด เอิ๊ก! เนี่ยห้าสายเองนะ!

อาจารย์ธาวิตเห็นอาจารย์วีระเพลิดเพลินสุดๆ กับกีตาร์ห้าสาย จึงหันมาพูดกับฉันว่า เมื่อเร็วๆ นี้ก็เล่นกีตาร์ร้องเพลงกันแบบนี้แหละ โดยมีอาจารย์ไชยันต์เป็นคนร้องเพลง "ผมเอาถั่วฝักยาวขว้างมันก็ยังไม่เลิก" haha


ยิ่งดึก กีตาร์ห้าสายยิ่งทำให้ขัดใจมากขึ้น เหมือนกินข้าวไม่อิ่มอะไรอย่างนั้น เมื่อพี่พจน์ขอลากลับบ้านตอนเกือบตีหนึ่งชาวชมรมวันศุกร์เราจึงพร้อมใจชักชวนคณาอาจารย์ไปต่อกันที่ร้าน "กางแปลง" ซอยรัชดาฯ 32 (ตรงข้ามศาล.... ถ้าสนใจเดี๋ยวจะหาแผนที่ร้านกับเบอร์โทรมาแปะให้ค่ะ) ผับเปิดใหม่ของ “ต้น” พัลลภ สามสี ผู้ช่วยบรรณาธิการสำนักพิมพ์มติชน ที่ลงหุ้นทำกับ “ตู่" พอลเทพ เฮง หัวหน้ากองบรรณาธิการนิตยสาร way กับเพื่อนพ้องอีกหลายคน พวกเราเคยยกโขยงมากันแล้ว จึงรู้ว่าที่นี่มีเพลงบอสซ่าเล่นสดๆ เพราะๆ ให้ฟังกันเต็มอิ่ม คืนนี้พวกเราย้ายคณะกันไปที่นั่น ด้วยความหวังว่าจะได้ฟังเพลงเล่นเพลงกันจริงๆ จังๆ หน่อย




......
แต่เมื่อไปถึงที่นั่นจริงๆ ปรากฏว่า “กางแปลง” คืนนี้ กลายเป็นที่ชุมนุมของผู้คนในยุทธภพทั่วแผ่นดิน ชาวคณะเราจึงแยกย้ายทักทายญาติมิตรเป็นพัลลัล ฉันมีโอกาสได้เจอตัวเป็นๆ ของพี่แดง คาราวาน เป็นครั้งแรก ก็เลยคุยกับพี่เขาติดพันจนลืมคณะอาจารย์ของเราไปเลย มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อคณะอาจารย์มาลากลับบ้านตอนตีเท่าไหร่ไม่รู้ ฉันก็ค่ะ ค่ะ อาจารย์ สวัสดีค่ะ ศุกร์หน้าเจอกันใหม่ จากนั้นก็เมาธ์กระจายเมามันต่อกันจนเกือบฟ้ารุ่งราง
...........
ขออนุญาตนำ “รายงานข่าว” คืนนั้นมาจากฝีมือการเขียนของคุณ “เสาร์ เช้าวันใหม่” หุ้นส่วนของร้านคนหนึ่งมาถ่ายทอดเอาไว้ตรงนี้ด้วย โดยขออนุญาตตัดทอนส่วนที่ล่อแหลมออกไปหน่อยนึงเน้อวันเสาร์ เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบกระเทือนความมั่นคงของชาติเฟร้ย :)
…………
ชุมนุมมังกรซ่อนพยัคฆ์ ณ 'กางแปลง'
เสาร์ เช้าวันใหม่ : รายงาน






คืนวันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม 2550 บรรยากาศร้าน “กางแปลง” รัชดาฯ 32 ช่างคึกคักอย่างยิ่งเดินทางไปถึงร้านราวๆ สองทุ่มครึ่ง “เสาร์ เช้าวันใหม่” และ “เปิ้ล นาโช่” “ก็พลันพบหนุ่ม “เช ยังไม่ตาย” เชตวัน นั่งตระหง่านหลังตรงอยู่ด้านนอก ถามสารทุกข์สุขๆ ดิบๆ ได้ความว่า ชวนสหายนักข่าวจาก “มติชน” มานั่งละเลียดเบียร์ได้ระยะหนึ่ง แต่ฝ่ายสหายนั้นเพิ่งแยกย้ายไปเมื่อครู่
.....
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา นัยว่ากลัวหนุ่มเชจะเหงา (ต้องรีบชวนเพราะเดี๋ยวเชเหงาแล้วจะลุกขึ้นร่ายกวี-ฮาๆ) จึงชักชวนให้มานั่งร่วมโต๊ะกันโดยดีอย่าอิดออด พอเบียร์ “ขวดเขียว” กับ “ขวดชา” เริ่มเดินเครื่องไปสักพัก ลอบสอบถามความเคลื่อนไหวม็อบ นปก। ที่หนุ่มเชไปเฝ้าอยู่หลายวัน จนเกือบโดนลูกหลงถูกขวดโค้กปาหัว ทราบว่า บรรดาแกนนำยังพอมีกำลังใจดีอยู่ เมื่อเห็นหน้าหนุ่มเชยืนดักรออยู่นอกลูกกรงก็ยังยิ้มออก ส่งตาหวาน ชูไม้ชูมือส่งซิก॥ “พี่ยังไหวอยู่!”
......
สบช่องเลยเล่าข่าวลือลับๆ ล่อๆ ที่ได้ยินมาว่า “ผมได้ยินมาว่างานนี้จุดจุดจุดเปลี่ยนท่าทีมาเป็นคนดุดันสุดลิ่มทิ่มประตูแบบนี้ก็เพราะ มีคนแอบถ่ายเทปลับของนักการเมืองคนหนึ่งขณะดู๋ดี๋กับหนุ่มๆ เอาไว้ แล้วก็ขู่ว่าจะเอามาเปิดเผยแพร่แบล็กเมล์แน่ๆ ถ้านักการเมืองคนนั้นไม่ยอมเล่นตามเกม!” เล่าจบหนุ่มเชบอก “แต่ผมเพิ่งเคยได้ยินนี่แหละพี่??” จึงตอบกลับไปว่า “อืมม์ คอยดูต่อไปละกัน บางทีข่าวลือนี่แหละ บางครั้งก็มักกลายเป็นข่าวจริง!-ฮาๆ”
.....
พูดเรื่องการเมืองไปไม่กี่นาทีก็ปวดกบาลสิครับทั่น เพราะไม่เหมาะกับไพร่อย่างกระผม ซึ่งควรจะสนใจแต่เรื่องปาก ท้อง และเครื่องดองของเมาเท่านั้นตามประสาแฟนพันธุ์แท้ “โลกียชน” สรุปแล้วเลยเข้าเรื่องที่ตัวเองถนัด นัดแนะชักชวนหนุ่มเชว่า วันไหนๆ ว่างๆ จะพาไปทัวร์ “ทริปพิเศษ—ที่ร้านสอ।—” ด้วยกันซะหน่อย เพื่อดับความรุ่มร้อนจากปัญหาบ้านเมืองปัจจุบัน!ว่ากันต่อถึงเรื่องของ “กางแปลง” ก็ปรากฎว่า “อร่าม เกศาสลวย” สหายวัยเยาว์ของ “ต้น ซีร้ายยย์” ยังคงมานั่งดื่มกินอย่างต่อเนื่อง
......


นัยว่าถ้าร้านมีกำรี้กำไรปีละ 20 ล้านตามที่พี่ต้อม จอมขมังเวทย์ ว่าไว้เมื่อไหร่ อาจต้องออก “บัตรทอง” ดื่มฟรี 100 ขวดให้อร่ามมันเสียหน่อยวุ้ย!
....
ราวๆ เกือบชั่วโมง พลพรรคจากนิตยสาร “เวย์” ก็ชักขบวนมาถึง “กางแปลง” โดยจับจองที่นั่งโต๊ะนอก หนนี้เจ้าสำนัก "อธิคม คุณาวุฒิ" ยังคงนำทีมมาเช่นเคย แต่หนีบเอา "เดอะเต้ย" ทินกร หุตางกูร มาเป็นแขกคนพิเศษด้วย ยังความปีติให้ “เสาร์ เช้าวันใหม่” อย่างยิ่ง เนื่องเพราะไม่เจอทั่นพี่เต้ยมานานนับตั้งแต่งานวิวาห์ของป๋าตู่ พอล เฮง ก็เข้าไปสวัสดีทักทายกันตามประสาคนหน้าด้านเคยมั่วนิ่มไปนั่งหัวโด่ดื่มเหล้าที่บ้านพี่เค้าย่านประชาชื่นมาแล้ว จากนั้นก็ปล่อยให้ทั่นพี่พูดคุยกับเพื่อนร่วมวงต่อไป
.....
ตามมาติดๆ “ดร।พิว” ก็ชักชวนทั้งคณะของพี่ “โอฬาร เชื้อบาง” , ทั่นพี่จอม“บอ-บู๋” รวมทั้งน้อง “ยักษ์ เยอรมัน” จากสำนักสยามสปอร์ตมานั่งดื่มกินบรรยากาศ แต่น่าเสียดายที่มาช้าไปนิด วงแจ๊ซพระกาฬของ “อาจารย์อู๋” เพิ่งบรรเลงรมย์สดๆ จบไปจึงไม่ได้ฟัง
.........
คืนนี้ที่ ‘กางแปลง’ แม้จะมี “มังกรหนุ่ม” มากหน้าหลายตาในวงการสื่อมาอุดหนุนด้วยความเมตตาอย่างยิ่งแล้ว ก็ยังพิเศษสุดแสนทบเท่าทวีไปกว่านั้น เมื่อ “ชมรมวันศุกร์” นำโดยรองผู้จัดการชมรม (สมทบด้วยปอนด์ นาโช่, หมอโชติ ภูมิศักดิ์, จำดิ๋ม, น้องอ๋อม) ได้ยกขบวนจากประชาชื่นมาต่อกันที่นี่ พร้อมชักชวน “แขกรุ่นเฮฟวี่เวท” มาร่วมวงด้วย คือ อาจารย์วรศักดิ์ มหัทธโนบล, อาจารย์วีระ สมบูรณ์ และอาจารย์ไชยันต์ ไชยพร (เจ้าตำรับอารยะขัดขืน) สามจอมยุทธจากสำนักสีชมพู สามย่าน
.......
วว่าประเด็นที่ “มังกรลายคราม” คณะนี้ถกเถียงต่อเนื่องมาจากวงประชาชื่นเป็นเรื่องการรับ หรือ ไม่รับรัฐธรรมนูญ
........
ค่ำคืนนี้ของ “เสาร์ เช้าวันใหม่” จบลงด้วยการโบกมือลาอาลัยมิตรสหายหลายวัยไปล่วงหน้าก่อน ปล่อยให้มังกร-ผู้ยิ่งใหญ่ รื่นรมย์กันต่อไป โดยมี “ต้น ซีร้ายยย์” คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ชนิดน้ำไม่ให้ขาด โซดาไม่ให้พร่อง ส่วนน้ำแข็งนั้นที่ ‘กางแปลง’ เรามีคติพจน์ว่า หลังเที่ยงคืนแล้วตักฟรีตลอดเวลาแบบนันสต็อป ถ้าไม่กลัวเป็นหวัดตาย หรือ ต่อมทอนซิลอักเสบ ก็เชิญบริโภคน้ำแข็งตามสะดวก-ฮ่าๆ
…………
























ด้วยเหตุนี้
เมื่อฟ้าใกล้รุ่งราง ชมรมเราแยกย้าย
ต่างเพศ ต่างวัย ต่างมา ต่างไป
บางคนวันพรุ่งต้องทำงานต่อ
บางคนได้หยุดก็จริง แต่ก็หอบงานกลับมาทำต่อที่บ้าน
บางคนกำลังจะกลับบ้านต่างจังหวัด
บางคนตั้งใจว่าเมื่อตื่นมาในวันรุ่งขึ้น จะไปทำบุญ

แล้วลองวีคเอ็นด์ที่ผ่านมาของคุณล่ะเป็นอย่างไร?




Don't cry baby
Artist : Madeleine Peyroux
Album : Careless love


All Rights Reserved।
2007 Copyright©'prypansang



..คนอ่าน

space 10

space 10

space 06

space 06

space 05

space 05

space 04

space 04

space 02

space 02

slow life in pai 23

ปายไม่มีแจ็คพ็อต! ช้าๆ นะช้าๆ ไม่ต้องรีบล่าแต้ม :) หลายปีมานี้มีหนังสือนำเที่ยวปายตีพิมพ์ออกมาหลายเล่ม เราจะพบคำแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ของปาย ไม่ว่าจะเป็น กองแลน น้ำตกหมอแปง หมู่บ้านจีนยูนนาน ฯลฯ อันที่จริง ถ้าหาทางมาถึงปายจนได้แล้ว ที่เหลือก็ไปต่อเองสบายๆ แล้ว เพราะ เมืองปายมันเล็กนิดเดียว มาถึงวันแรกวันเดียวก็เที่ยวได้เกือบทะลุปรุโปร่งแล้ว .คลิกอ่านต่อ

slow life in pai 22 from Chiangkan to Pai

last update : Feb,18-2010.... เมฆบางๆ ใจเบาๆ นั่งเรือเก่าๆ ข้ามฝั่งแม่น้ำโขง ...เบิ่งลาว หลายคืนวันในเชียงคาน จากการได้อาศัยกินอยู่ซุกหัวนอนและเที่ยวเตร็ดเตร่ไปตามซอกเล็กซอกน้อยริมโขง ก่อนจะกลับเข้ารังนอนของแต่ละวัน เราจะต้องมานั่งๆ นอนๆ ยืนๆ สูดลมเย็นริมแม่น้ำโขง มองดูพระอาทิตย์ค่อยๆ ลับลงตรงที่ภูเขาและแม่น้ำจรดกัน

slow life in pai 21 from Chiangkan to Pai

last update: Feb,17-2010
ค่ายนักเขียนน้อยเชียงคาน ฉันไม่แน่ใจหรอกว่า การสอน"เขียนหนังสือ"นั้น มันจะได้ผลแค่ไหน และมันสอนกันได้อย่างไรแน่ ทฤษฎีการเขียนนั้นมีอยู่มากหลาย แต่มีกี่คนที่ใช้ได้ผล ที่สำคัญ ไอ้ที่เราเขียนเองนั่นน่ะ มันดีแล้วหรือ จึงสะเออะไปสอนคนอื่นเขา :) การสอนเรื่องการเขียนสำหรับฉัน มันมีคำถามมากมายอย่างนั้นแหละ คลิกอ่านต่อ

slow life in pai 20 from Chiangkan to Pai

last update : Feb,16-2010 หวิวไม่หวิว :) ฉันเป็นโรคประหลาด คือเวลาไปเที่ยวไหน จะไม่ค่อยมีความกระตือรือร้นกับสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของเขาเท่าไหร่ อย่างตอนไปปารีส ก็ไม่ได้เคยนึกว่าจะต้องไปดูหอไอเฟล หรือจะต้องขึ้นไปบนนั้นให้ได้ เหมือนกับตอนที่ไปพิพิภัณฑ์ลูฟว์ครั้งแรกในชีวิต ก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องไปต่อคิวดูภาพโมนาลิซ่ากับเขาแต่อย่างใด คลิกอ่านต่อ

slow life in pai 19 from Chiangkan to Pai

last update : Feb,17-2010 เถ้าแก่ลาว และยามเช้าริมแม่น้ำโขง เถ้าแก่ลาวเป็นชื่อเกสต์เฮาส์เล็กๆ ในเชียงคานที่เราได้มีโอกาสแวะไปพักอีกแห่งหนึ่ง โดยดูจาก "หลังบ้าน" ก่อนจะวิ่งมาดูหน้าบ้านอีกเช่นกัน เกสต์เฮาส์แห่งนี้ มีห้องพักอยู่เพียงสามสี่ห้อง ห้องสวยที่สุดอยู่บนชั้น 2 มีระเบียงส่วนตัวชมแม่น้ำโขงที่สวยเลิศ คลิกอ่านต่อ
...

slow life in pai 18 from Chiangkan to Pai

last update : Feb,15-2010 ของกินริมโขง มากมายมากมี.งานเขียนของ"น้องหมิว หมูหวาน"เรณุมาศ พลพันธ์ นักเรียนชั้นม.5/2 โรงเรียนเชียงคาน น้องหมิวเป็นนักเรียนสังกัดค่ายอบรมนักเขียนน้อยสีชมพูของ'ปราย พันแสงนั่นเองล่ะค่ะ ขอโปรโมทนิดนึงนะ เพราะน้องเค้าเขียนได้น่ารักน่าแซ่บมากจริงๆ เสียดายลืมถ่ายรูปส้มตำเชียงคานมาประกอบเรื่องด้วย แต่เอาน่า แค่ตัวหนังสืออย่างเดียวก้อ "น้ำลายแตก" แบบที่น้องเค้าว่าเหมือนกัน คลิกอ่านต่อ ...

slow life in pai 17 from Chiangkan to Pai Madam

last update : Feb,14-2010 เรื่องรักในเชียงคาน เมื่อราตรีประดับดาวและหยาดน้ำตา ในความคิดถึงของมาดามวารินชำราบ "มีเพลงหนึ่งนะ ที่พี่ชอบมาก แต่เปิดฟังอีกไม่ได้เลยหลังจากอาเสีย" เป็นคำเอื้อนเอ่ยแบบปัจจุบันทันด่วนของ "พี่ติ๋ม"สุมาลี วงษ์สวรรค์ เธอคือ"มาดามวารินชำราบ"ตัวละครที่นักอ่านไทยแสนจะคุ้นเคย ในฐานะภรรยาของพญาอินทรีแห่งสวนอักษรที่เพิ่งโบยบินจากเราไปจิบไวน์อยู่บนฟ้า ...'รงค์ วงษ์สวรรค์ คลิกอ่านต่อ

slow life in pai 16 from Chiangkan to Pai

last update: Feb,13-2010 เชียงคาน เมืองไม้เก่าชายโขง อดีตที่คล้ายไม่ยอมผ่านไปง่ายๆ แต่ก็จะไม่ยอมหวนคืนมาให้ทั้งหมด.ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของสมาคมคนถ่ายภาพไม่เป็น ฉันชอบความรู้สึกตอนที่กำลังถ่ายภาพอยู่ในเชียงคานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตอนยืนอยู่บนถนนชายโขงที่ว่างเปล่า ไม่มีผู้คนเดินอยู่เลยแม้แต่คนเดียว วันนั้นฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา มันเป็นยามเช้าของวันจันทร์อันเงียบกริบ เงียบจนฉันได้ยินเสียงหายใจตัวเอง............ .. คนอ่าน

slow life in pai 15 from Chiangkan to Pai

last update: Feb,12-2010 รักลาว รักเลย กลับปาย :)."รักลาว รักเลย กลับปาย" เป็นข้อความที่ฉันพิมพ์ใส่ไว้ในจอ msn ตั้งแต่เมื่อวาน ...คิดไว้เหมือนกัน ว่าพาดหัวตัวไม้ไว้แบบนี้ คงมีข้อความแปลกๆ ส่งเข้ามาหาอยู่บ้าง แต่บางข้อความ ต้องยอมรับว่า เหนือความคาดหมาย เช่นว่า "ตกลงไม่รักปายแล้วหรือพี่" ....คลิกอ่านต่อ ...

slow life in pai 14

last update: Feb,12-2010 อันหัวใจคนเรา นั้นเท่ากลีบมะเฟือง :) .. เช้าวันนี้ ตื่นขึ้นด้วยอาการกระแอมกระไอระคายคอเล็กน้อย เหตุคงมาจากเมื่อค่ำวานนั่นปะไร มิใช่อื่น ... เรื่องของเรื่องคือ นั่งทำผมอยู่ดีๆ ไฟฟ้าดันดับพรึ่บซะงั้น อยากจะขำว่ะ อยากจะหัวเราะดังๆจริงว้อยยยยยยยยย (กรรมเวร... ขำชาวบ้านเขาเอาไว้เยอะ)แต่มันไม่ค่อยขำ ไม่ฮาเอาเลยแฮะ เพราะเมื่อวานคิดว่าจะกลับบ้านเร็ว ...เลยไม่ได้เอาเสื้อกันหนาวติดมือไปด้วย...........คลิกอ่านต่อ ... 8

slow life in pai 12

last update : Jan 24-2010 The World We live in. .การอยู่อาศัยบนดาวเคราะห์ดวงนี้ คุณต้องเข้าใจด้วยว่า ... 1.โลกไม่ได้หมุนรอบตัวคุณคนเดียว อย่าเวอร์ 2."ความเห็นก็เหมือนตูด ใครๆ ก็มี" บางทีทัศนคติของคุณก็ไม่ได้สำคัญอะไรนักหรอก เก็บๆ ไว้หน่อยก็ได้ ฝีมือ ความรู้ ความสามารถ ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ สำคัญกับโลกนี้มากกว่าลมปาก 3.บางคนได้คืบจะเอาศอก ถ้าโลกนี้ไม่เคยขาดแคลนเผด็จการเลย ก็ไม่ต้องแปลกใจ 4.ไม่มีอะไรสำคัญกับชีวิตเกินกว่าจะปล่อยมันไป คลิกอ่านต่อ

slow life in pai 11

last update: Jan 15-2010เที่ยวเมืองน้อย อีกซอกมุมเล็กๆ น้อยๆ ของปาย ..เช้านี้พวกเราสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเป็นพิเศษ เพราะเรามีกำหนดออกเดินทางไปเที่ยวเมืองน้อยกัน โดยนัดเจอกันที่หน้าร้านตอนแปดโมงเช้า ฉันตั้งเวลาปลุกไว้ 7 โมงเช้า แต่กว่าจะลุกออกจากที่นอนไปอาบน้ำอาบท่าได้ ก็ปาเข้าไปเจ็ดโมงครึ่ง กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็แปดโมงพอดี แต่กระนั้น ฉันใช้เวลาขี่จักรยานออกจากบ้านไปยังจุดนัดหมายของเราโดยใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีเท่านั้นเอง ปายก็น่ารักน่าอยู่อย่างนี้แหละ เมืองมันเล็กนิดเดียว ไปไหนมาไหน ก็ใช้เวลาแค่นิดเดียวเท่านั้น .......คลิกอ่านต่อ
...

slow life in pai 10

last update : Jan,12-2010 ปาย : ไม่ได้แปลว่าบังเอิญ วันนี้เรามีลูกค้าคนสำคัญคือน้องออม เป็นนักร้องบอสซ่าสาวเสียงสวยอีกคนของเมืองปาย เธอร้องประจำร้านในปายหลายที่ แถมยังเป็นลูกค้าขาประจำร้านหนังสือฟรีฟอร์มของเราด้วย เธอแวะมาซื้อหนังสืออ่านบ่อยๆ จนสนิทสนมคุ้นเคยกับคนที่ร้านเราเป็นอย่างดี คลิกอ่านต่อ

slow life in pai 9

last update :jan, 11-2010
ปีใหม่วันที่ 11 :) ... แผนลับอัพบล็อกแตกโพละไปหลายวัน หายจ้อยไปดื้อๆ เสียอย่างนั้น เจ้าของบล็อกก็มิได้นิ่งนอนใจ รู้สึกผิดอยู่ทุกวั้น ทุกวัน เพราะประจานตัวเองเอาไว้บนหน้าบล็อกอย่างโจ่งแจ้งเสียอย่างนั้น ก่อนปีใหม่หลังปีใหม่ปีนี้ ชีวิตวุ่นวายหลายเรื่อง ที่กินเวลาแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของชีวิตคือเรื่องร้านหนังสือ ส่วนอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์เป็นเรื่องการขายของ จัดของ สั่งของ เท่านี้ก็หมดไปแล้วสิบเอ็ดวัน คลิกอ่านต่อ.....

slow life in pai 8

last update: Dec , 28-2009 ........................... 15 เรื่องที่คนขายเสื้อยืดรู้ดี [แต่คนทำหนังสือนี่สิคงไม่ค่อยรู้!:] 1.ผู้คนส่วนใหญ่มักจะซื้อเสื้อยืดที่มีขนาดเล็กกว่าที่ตัวเองจะสวมใส่ได้ประมาณ หนึ่งไซส์อยู่เรื่อยๆ ..2.ผู้หญิงอาการหนักกว่าผู้ชาย บางทีควรจะใส่ไซส์ L แต่กลับซื้อไซส์ S เข้ารูปเสียนี่ คนขายลำบากใจนะจะบอกให้ ...........คลิกอ่านต่อ

slow life in pai 7

last update: Dec , 27-2009
ปายอีกหนึ่งวัน อีกหนึ่งคืนแห่งสีสัน
[โหด ฮา มันส์ แอนด์ยุ่งเหยิง]
...
ในปา

slow life in pai 6

last update: Dec , 26-2009 ...........................
เมื่อฮันนีมูนกำลังจะสิ้นสุด
ในปายมีใบไม้รูปหัวใจเยอะแยะไปหมด ที่อื่นคงมี แต่เราอาจจะไม่ได้สังเกตเห็น เมื่อครู่ฉันนั่งจัดไฟล์ภาพในคอมพิวเตอร์เพื่อจัดเก็บลงฮาร์ดดิสค์ ไปเจอภาพใบไม้เหล่านี้เข้า ตอนที่เก็บข้าวของมาอยู่ปาย เป็นช่วงหน้าฝน ใบไม้ใบหญ้าเขียนชอุ่มละออตาไปหมด ฉันนึกถึงความรู้สึกของตัวเองตอนมาอยู่แรกๆ มองไปทางไหนก็สวยงามไปหมด คงเหมือน "ช่วงฮันนีมูนกับปาย" อย่างที่พี่คนหนึ่งเคยแซวไว้ คลิกอ่านต่อ

slow life in pai 5

last update: Dec , 25-2009 ........................... คริสต์มาสและความคิดถึง :) กำลังเก็บข้าวของ ย้ายห้องอีกครั้ง ปีใหม่วันหยุดยาวนี้ ญาติมิตรมีโครงการแวะมาเยี่ยมเยือนที่ปายหลายคน ที่พักสำหรับผู้มาเยือน จึงเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนสำหรับฉันในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นปีนี้ ...คลิกอ่านต่อ
...

slow life in pai 4

last update : Dec,24 -2009
ปอ-อะ-ยอ-ปาย
Pai = ปาย หนังสือนำเที่ยว Lonely Planet อธิบายไว้ว่า Pai: pronounced like the English word ‘bye’ not ‘pie’ หมายถึงนครเมกกะของนักเดินทาง (Traveler’s Mecca) ครั้งหนึ่งในชีวิตชาวมุสลิมแท้จริง ต้องจาริก “เมกกะ” ให้ได้สักครั้งฉันท์ใด นักเดินทางที่แท้จริงย่อมจาริก “ปาย” ให้ได้สักครั้งฉันท์นั้น
.... .............................................................
Tourist = นักท่องเที่ยว คนที่ท่องเที่ยวชั่วครั้งชั่วคราวแล้วกลับบ้าน ไปทำงาน ใช้ชีวิตตามปกติ
... ............................................ ............................................. Traveler = นักเดินทาง คนที่ไม่ทำงานทำการ เอาแต่เดินทางท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ นานเป็นเดือน เป็นปี บางทีออกเดินทางท่องเที่ยวแล้วไม่ยอมกลับบ้านอีกเลยก็มี บางคนแต่งงาน ปลูกบ้าน หางานทำในแหล่งท่องเที่ยวที่ตนชอบ เช่นในปาย-มีเยอะ ............คลิกอ่านต่อ

slow life in pai 3

last update: Dec,23-2009 .. บางแง่มุมที่สวยงาม อย่างน้อยก็ในความรู้สึก............. [เรื่องตุบๆใต้อกเบื้องซ้าย]
พักนี้นอนดึกตื่นสาย บางทีสิบเอ็ดโมง เที่ยง ยังนอนห่มผ้านวมสองผืนเฉยเลย ตื่นมากว่าจะจัดการกาแฟกับมื้อเช้าเล็กๆ น้อยๆ ด้วยขนมนมเนยชิ้นเล็กชิ้นน้อยจากร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่เตรียมไว้ ก็ปาเข้าไปบ่ายแล้วก็มี นี่แหละชีวิตในปาย เหมือนเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนก็ได้ แต่ฉันรู้สึกผิดทุกครั้งที่ตื่นสาย ...คลิกอ่านต่อ
....

slow life in pai 2

last update: Dec , 22-2009 ........................... ด้านมืดของปาย ...หรือ'ปราย :)... [โปรดระวังปอดบวม]
....
วันนี้นั่งคุยยาวนานกับใครบางคนถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ บังเอิญว่าเมืองนี้มันดีเลย์เสมอ หรือก้าวถอยหลังอยู่เรื่อยอย่างไรไม่ทราบ ใครคนนี้ก็ดั๊นเพิ่งได้อ่านมติชนสุดสัปดาห์เล่มเก่าๆสองสามเดือนก่อน ฉบับที่ฉันเขียนถึงปายเอาไว้บ้างสักตอนสองตอน อ่านแล้วคงไม่ค่อยรู้เรื่อง จับอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่ จึงยิงคำถามยากๆ ทำให้ฉันอึ้งอยู่เรื่อย ... คลิกอ่านต่อ
....

slow life in pai 1

last update :Dec ,21-2009
วันก้าวถอยหลัง
จุดเริ่มต้นแห่งความเฉื่อย?
วันอาทิตย์ 20 ธันวาคม 2552 วันนี้เป็นวันแรกในรอบหลายเดือนมานี้ ที่ฉันไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนเลย ไม่ไปร้าน ไม่ไปไหนเลย โอ้ เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน หลายวัน เพราะฉันมักมีเหตุต้องออกจากบ้านตลอดเวลา ....คลิกอ่านต่อ

หนังหน้าเสื่อ เทค 1

last up date : Dec, 20-2009 เบื้องหน้า เบื้องกลาง เบื้องหลัง เทศกาลหนังหน้าเสื่อ-ปาย เทค 1 ....
ในที่สุดการทดลองจัดฉายหนังกลางแปลงครั้งแรกในปาย (ของพวกเรา) ก็ลุล่วงไปด้วยดี หลังจากก่อนหน้านี้ พวกเราต่างวิ่งวุ่นช่วยกันลุ้นมาหลายวัน ทั้งทำโปสเตอร์ ซีร็อกซ์ใบปลิว ไปเดินแจกในย่านชุมชน วางในร้านอาหาร ......... ...คลิกอ่านต่อ
...

เหตุเกิดในร้านหนังสือฟรีฟอร์ม

เหตุเกิดในร้านหนังสือฟรีฟอร์ม-ปาย "ซื้อเสื้อ แถมหนังสือได้มั้ย" ... หลายปีของชีวิตที่วนเวียนคลุกคลีอยู่ในแวดวงหนังสือหนังหา จนกลิ่นกระดาษ กลิ่นหมึกแทบจะกลายเป็นหนังกำพร้าชั้นใหม่ไปแล้ว แต่ไม่เคยเลย ที่ฉันจะต้องใช้พลังกายพลังใจอย่างมากมายมหาศาลเหมือนการทำร้านหนังสือฟรีฟอร์มในปายคราวนี้ .......คลิกอ่านต่อ ...คนอ่าน

ETin+story

คิดแบบอีตี๋นนน นนนน....นนนน ......
อีติ๋น หรืออีตี๋นขาว คือแมวดำตีนขาวตัวหนึ่งใน อ.ปาย ที่ชาวบ้านเรียกกัน อีตี๋นขาว มีชื่อจริงว่า “แองเจลล่า” เป็นชื่อที่เจ้าของมันตั้งให้ เจ้าของอีตี๋นเป็นฝรั่งตัวใหญ่ กล้ามโต มีรอยสักน่าเกรงขามเต็มแขน ฟังมาว่าเคยเป็นนักท่องเที่ยวที่มาเยือนปายหลายครั้ง ก่อนตัดสินใจพำนักแบบ long term โดยเช่าบ้านอยู่ในปายล่ำสันนานเป็นปีๆ โดยไม่มีกำหนดกลับ เจ้าของอีติ๋นมักจะร้องเรียกหามันตอนค่ำให้มากินข้าวปลาว่า “แอ่งเจ๊ลลลหล่า แอ่งเจ๊ลลลลลลลล้า ม่ำ ม่ำ ม่ำ” ............. คนอ่าน

So Proud to Present

So Proud to Present มืออาชีพ ไม่รู้จักคำว่าออกตัว :) Last update : July 18-2009 ....วันก่อน บรรณาธิการคนหนึ่งของฟรีฟอร์ม ต้องติดต่อกับนักเขียนใหญ่ชื่อดัง เธอออกตัวไว้ในจดหมายบางเรื่อง กับการเป็นบรรณาธิการมือใหม่ของเธอ พอดีเธอส่งจดหมายมาให้อ่านก่อน ฉันก็เลยตัดทิ้งไปหลายคำ ส่วนที่ตัดไปเธอไม่ว่าอะไร--แต่เธอติดใจว่าทำไมเธอจึงออกตัวบ้างไม่ได้"การออกตัวคือการถ่อมตัว ทำไมวงการนี้ต้องโชว์พราวด์ใส่กันเหรอ" เธอว่ามาอย่างนั้นฉันก็เลยต้องอธิบายให้เธอฟังยืดยาว พราวด์หรือเพราด์ของเธอมาจากภาษาอังกฤษคำนี้ Proud \ Proud\,Feeling or manifesting pride, in a good or bad sense; as:(a) Possessing or showing too great self-esteem;overrating one's excellences; hence, arrogant;haughty; lordly; presumptuous.[1913 Webster] …..คลิกอ่านต่อ

PAI--LOW SEASON, HIGH SPIRIT 1

'ปาย'ฝันที่ไม่ได้ฝัน

...กลางฤดูฝ

เมื่อคุณใช้ชีวิตบนโลกนี้มาสักช่วงหนึ่ง ผ่านพบความเป็นไปของโลกมาแล้วพอสมควร คุณจะรู้เลยว่า ชีวิตคนเรานั้นไม่ต้องการอะไรมากมาย นอกจากแค่อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของมัน แค่อยากให้ทุกอย่างอยู่ในที่ทางของมัน โดยไม่ต้องรีดเค้นจากตัวเองหรือใครให้มากมาย คลิกอ่านต่อ

............ คนอ่าน

ของมันแตกได้ , รงค์ วงษ์สวรรค์

บทรำพึง...
คิดถึงคนบางคน
ที่กำลังจิบไวน์บนฟ้า.. ภาพจาก tuneingarden.com
Last update: July,04-2009 ......................
ใครเขียนหนังสือมาบ้างจะรู้ เวลาไม่ได้เขียนอะไรนานๆ มันจะฝืด อาปุ๊-'รงค์ วงษ์สวรรค์ เคยพูดกับฉันว่า "ตอนอาหนุ่มๆ นะ อาเขียนชิบหาย คิดอะไรหน่อย เห็นอะไรหน่อย อยากเขียน แล้วก็เขียนออกมาได้มหาศาล บางทีกลับไปอ่าน ยังรู้สึกว่ามันต้องแก้ตรงนั้นแก้ตรงนี้ คือสมัยหนุ่มจะแรงดี แต่งานเขียนอาจจะไม่ค่อยดีเหมือนตอนแก่"...ฉันก็ว่า "อุ๊ย อา ยิ่งดีสิคะ ยิ่งแก่ยิ่งเขียนกระจายไปเลยสิ ดีจะตาย"แต่อาปุ๊ตอนนั้นนั่งรถเข็นมาร่วมงานหนังสือมติชนที่เชียงใหม่ตอบฉันว่า"ตอนแก่นี่ ความคิดดีๆ มันเยอะก็จริง แต่ไม่ค่อยมีแรงเขียนว่ะ"...คลิกอ่านต่อ.............. ......... *... ...คนอ่าน .........47 ความคิดเห็น
............................................................
............................................................
............................................................
............................................................
...........................
ของมันแตกได้ ...ย่อมแตก
เคยมีสักวันหรือเปล่า ที่คุณถามตัวเองว่า "ตรูทำบ้าอะไรลงไปฟระเนี่ย" ฉันลองมานั่งนึกดู วันนี้เป็นความบ้าแห่งชีวิตฉันโดยแท้จริง ---แล้วมันก็ทำให้ฉันนอนไม่หลับอีกต่างหาก บอกตัวเองแล้ว--ต้องท่องคำว่า "ช่างแม่ง!" --- ให้ขึ้นใจ แล้วเอ็งจะมีชีวิตบนโลกนี้อย่างมีความสุข เอาเข้าจริง มันก็ "ช่างแม่ง" ไม่ได้ทุกทีหรอก..........คนอ่าน

โรเจอร์ เฟดเดอเรอร์ - หวงเยวี่ยน

น้ำตาแชมป์โลก... โรเจอร์ เฟดเดอเรอร์
Last update : June,10-2009
เมื่อคืนก่อน (June,7-2009) มีการถ่ายทอดสดแข่งขันเทนนิสรอบชิงชนะเลิศ French Open 2009 ประชันฝีมือชั้นเทพระหว่างโรเจอร์ เฟดเดอเรอร์ กับ โรบิน โซเดอร์ลิง นักเทนนิสดาวรุ่งมือวางอันดับ 23 จากสวีเดน รอบนี้ ถึงแม้จะพ่ายแพ้เฟดเดอเรอร์ แต่โซเดอร์ลิงก็เลื่อนพรวดข้ามชั้นมาเป็นมือวางอันดับ 12 ของโลกแล้วตอนนี้ ใครนั่งดูอยู่เหมือนกันล่ะก็..เราอาจจะรู้สึกเหมือนกันนะ ว่ามันเป็นการดูการแข่งขันเทนนิสที่สนุก ระทึกใจเป็นที่สุด จนแทบไม่อยากจะลุกหนีจากหน้าจอไปไหน แม้กระทั่งจะลุกไปเข้าห้องน้ำ....... คนอ่าน
.................................................
..............................................................
................................................................ ............
อีกวันหนึ่งกับหวงเยวี่ยน และอื่นๆ อีกมากมาย “ระเบิดแห่งความสุข” ถูกจุดขึ้นตอนบ่ายสองกว่าๆ ของวันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม ในซอยทองหล่อ 10 ณ ร้านหนังสือบุ๊คมาร์คของ The Third Place เราจึงเชื่อว่ามิตรภาพจากคนแปลกหน้าสามารถสร้างเสียงหัวเราะได้จริง ซึ่งเป็นงานเปิดตัวหนังสือเล่มล่าสุด”ผู้ชายเหมือนระเบิด” จากฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ ..... คนอ่าน

ฉันฝันว่าฉันฝัน

I I Dreamed a Dream ซูซาน บอยล์ ฉันฝันถึงความฝันในวารวันที่ผ่านเลย ยามที่เคยวาดหวังไว้ยิ่งใหญ่ ยามที่ชีวิตยังมีความหมาย ผนึกต่อลมหายใจในกายา ฉันเคยฝันว่าความรักนั้นไม่เคยตาย ฉันเคยฝันว่าพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ยังเมตตา เมื่อครั้งที่ฉันเยาว์และหาญกล้า..ฉันปั้นฝันนั้นมาแล้วทิ้งไป ...

วันชาติชาวหนอน

แล้วเราก็เจอกัน ในวันชาติของชาวหนอน ปีนี้ฟรีฟอร์มเพิ่งมีบูธเป็นของตัวเอง หลังจากที่ไปฝากบูธอื่นขายมาหลายรอบ บูธเราเป็นบูธเล็กๆ ขนาดสองคูณสามเมตร ที่ทางผู้จัดงานใช้พลาสติกใสๆ มากั้นเป็นล็อกๆ ให้เราใช้วางหนังสือจำหน่ายในงาน บูธเล็กขนาดนี้ต้องใช้เวลาจัดอยู่ตั้งหลายชั่วโมง............คนอ่าน

สิ่งที่เรียนรุ้

............ บ
สิ่งที่ข้าพเจ้าเรียนรู้จากวันนี้ พวกเราทีมงานฟรีฟอร์ม อยู่โยงเฝ้าออฟฟิศกันดึกดื่นเพื่อเก็บงานหนังสือชุดสุดท้ายส่งโรงพิมพ์ ซึ่งกว่าจะเสร็จสิ้นก็ปาเข้าไปเกือบตีสอง
...
ช่วงนี้ ฉันออนเอ็มเอสเอ็นเกือบทั้งวันทั้งคืน แต่ไม่ค่อยได้คุยกับใคร นอกจากส่งลิงค์ ส่งไฟล์งาน ให้คนทำกราฟิคที่นั่งอยู่ในห้องเดียวกัน (ซะงั้น) บางคนเข้ามาคุยด้วย แต่ไม่ได้คุยตอบ ก็งอนกันไปหลายราย...คนอ่าน

...................
.................

รักเธอ กอดคนอื่น

สิบปีล่วงแล้ว....รักเธอ....กอดคนอื่น ถ้อยคำที่ผู้คนมักเข้าใจผิด!.ถ้าคุณค้นหาคำว่า"รักเธอ.กอดคนอื่น"ในกูเกิ้ล.มันจะมีมากกว่า.172,000.ลิงค์-ปุจฉาวิสัชนา.ว่าด้วยไม่รักก็กอดไม่ลง?ได้กอดทุกคนที่รัก?รักทุกคนที่กอด?--เอ๊.ยังไง?.. คนอ่าน

Bird in the tree

นกบนกิ่งโมก ยามบ่ายในฤดูฝนอบอ้าวนัก ฉันตัดสินใจอาบน้ำอีกรอบแล้วนอนหลับเสียให้เข็ด การนอนนอกจากจะเป็นการพักผ่อนดีที่สุดแล้ว.มันยังเป็นการ‘หนี’ทุกอย่างได้ดีที่สุด... ...คนอ่าน

pooh

แค่อยากรู้ เธอยังไม่ลืมฉัน.ภาพมิตรภาพแสนซื่อ.ขณะพิกเล็ทเดินตามหมีพูห์ต้อยๆ.รอยเท้าคู่เล็กๆ.ย่ำไปบนหิมะ.เคียงข้างกับรอยเท้าของพูห์ไปตลอดทาง.เป็นความอบอุ่นในหัวใจที่ทั้งสองทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง

The Road Not Taken

ว่าด้วยวิธีเดินทางในเส้นทางที่ไม่ค่อยมีคนเดิน.:).ยามใดที่ชีวิตต้องมีเรื่องให้คิดถึงบทกวีบทนี้.สิ่งที่รบกวนจิตใจฉันเสมอก็คือ“ชื่อ”ของบทกวีบทนี้...ฉันมักสงสัยว่าทำไมโรเบิร์ต.ฟรอสต์.จึงให้ค่ากับ“ทางที่ไม่ได้เลือก”ถึงเพียงนี้…ชื่อของมันน่าจะเป็น...

drink

คุณดื่มวงการไหน?.เราคบกัน คุยกัน กินดื่มด้วยกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่อกันบ้าง ช่วยเหลือกันบ้างบางที ตามความรู้ความสามารถ ตามกำลังที่มี เท่าที่รู้เท่าที่เห็น หลายสิบชีวิตในวงการนักเขียนที่ฉันคลุกคลี ล้วนแล้วแต่มี..

HNY 2007

สิ่งที่ชีวิตน้อยๆ.ของข้าพเจ้าได้เรียนรู้ในรอบปีที่ผ่านมาวัฒนธรรมการอ่านของมนุษย์ออนไลน์นั้นไม่ค่อยสร้างสรรค์เท่าไหร่เลยค่ะ อาจเป็นเพราะชินกับการอ่านของฟรีมากไป จนไม่รู้สึกว่าต้อง"จ่าย"อะไร.แม้แต่คำทักทายกันสักคำ

Sriburapa

บ่ายวันหนึ่งในบ้านศรีบูรพา..เรื่องบางเรื่องในโลกเรา บางทีก็แปลกดี ฉันเพิ่งตอบคำถาม นิตยสารไฮคลาส ไปเมื่อไม่นานนี่เอง เกี่ยวกับนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้...คนสัมภาษณ์ถามฉันว่า ...

paradise lost

PARADISE LOST:จิมมี่ เลี่ยว.พาราไดส์.ลอสต์-เป็นเรื่องราวมิตรภาพความผูกพันของสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตจำนวนหนึ่ง (จะเรียกว่าคนก็กะไร เพราะบางอย่างก็เหมือนจะไม่ใช่)มารวมตัวกันอยู่ในดินแดนหนึ่ง ที่ซึ่งพวกเขาทุกคนล้วนเข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดี แต่ละชีวิตมีปมด้อย มีบาดแผล มีความพิการ มีความบกพร่อง จนทำให้โลกภายนอกปฏิเสธพวกเขา แต่ในดินแดนพาราไดส์ลอสต์แห่งนี้ ทุกชีวิตมีอิสระเสรี เพราะมีผู้ที่เข้าใจ [คลิกอ่านต่อ]

เขียน เขียน และเขียนต่อไปเถิด

เขียน...เขียน...และเขียนต่อไปเถิด.เมื่อวานรื้อกรุสมบัติที่บ้าน.เจอเศษกระดาษเหลืองกรอบแผ่นหนึ่ง.เป็นชิ้นส่วนที่ฉีกออกมาจากนิตยสาร.Writer’s.Digest.ปี 1991 ว้าว!ฉันเก็บเจ้าเศษกระดาษชิ้นนี้มาสิบแปดปีแล้วหรือนี่... คนอ่าน

Kylie X Tour2008

ช้านร้ากเธอ...ไคลี่ มิน็อกซ์ la ..la..lala บันทึกหลังควันจางๆ จากข้างเวทีไคลี่เอ็กซ์ Kylie X 2008 World tour live in Bangkok 23 Nov.2008 อิมแพค เมืองทอง.. ...คนอ่าน

Poomsaron

ภูมิซรอล อ่านว่า พูม-สะ-รอน -เพลงใหม่คาราวาน จากอัลบั้ม โลกร้อนคนละลาย 2 คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา คนข้างเคียงชวนไปชม "คอนเสิร์ต คาราวาน โลกร้อนคนละลาย ครั้งที่ 2"...คนอ่าน

ban jim party

อำนาจนักอ่าน,อภินิหาริย์เจ๊ดัน:). เมื่อทีมงานนิตยสารฟรีฟอร์ม.ร่วมมือร่วมใจกันปิดร้านสรรพรสเพื่อเลี้ยงขอบคุณ"พี่เจี๊ยบ"กฤติยา.กาวีวงศ์ ผู้อำนวยการหอศิลป์.Jim Thompson Art Center พร้อมทีมงาน

dream

คนล้าฝัน...คนล่าฝัน.ส่งหนังสือเข้าโรงพิมพ์แล้ว.จึงถือเก็บกวาดหน้าจอ.เจอภาพแปลกๆ.ภาพนี้เป็นบรรยากาศช่วงปิดเล่ม.จะเห็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของกองบก.นิตยสารฟรีฟอร์มนั่นคือการได้ถ่ายภาพหมู่ร่วมกันตอนตีสี่

friday club

รัฐธรรมนูญห้าศูนย์&กีตาร์ห้าสาย& มหาวิทยาลัยวันศุกร์.ที่นั่งประจำของชมรมเราฯ.คับคั่งด้วยแขกเหรื่อแมนล้วนเต็มโต๊ะ.เป็นผู้เยี่ยมยุทธ์จากรั้วจามจุรีและท่าพระจันทร์.ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ไชยันต์.ไชยพร,อาจารย์วีระ.สมบูรณ์,อาจารย์แซม ฯลฯ

perfectionist

วันเซ็งๆ.และเพอร์เฟ็คท์ชั่นนิสต์ผมม้า? เซ็งเป็ดมากค่ะ เลยนั่งดูโฆษณาพาเพลิน โฆษณาเดี๋ยวนี้เขาทำดีมากนะ ได้ยินมาว่าบางคนหาเงินจากการทำโฆษณาเพื่อเอาไปทำหนังไทย.เจ๊งค่ะเจ๊ง.

Gen X-Gen Y

โทษที!.วันนี้ คุณวาดการ์ตูนแล้วหรือยัง?.สองวัน ใช้กระดาษขาวหมดไปแล้วยี่สิบสองแผ่น ไม่อยากเลยเชื่อว่าจะต้องมานั่งหัดวาดการ์ตูนกับเขาล่วย.. ...คนอ่าน

.................
................
...........................
............................
.............................................................................
.........................................................
........................................
...................................................
..........
................ .
บันทึกใบไม้...หากมีเวลาคอยเฝ้าดูนานพอ เราจะเห็นใบไม้ร่วงจากคาคบอย่างเงียบกริบ หล่นร่วงลงทอดตัวนิ่งสนิทแนบชิดผืนหญ้า สิ่งที่เป็นของเราก็คือไม้ยืนต้นไร้ใบกับใบไม้ร่วงอยู่บนผืนหญ้า... ...คนอ่าน