รัฐธรรมนูญห้าศูนย์ กีตาร์ห้าสาย
มหาวิทยาลัยวันศุกร์
และร้านกางแปลง รัชดาฯ 32
วงเล็บ เกี่ยวกับ “ชมรมวันศุกร์” ถ้าสนใจ ลองคลิกเมนูขวามือ my contents แล้วคลิกหัวข้อเรื่อง “คุณดื่มวงการไหน” มีที่มาที่ไปแต่ไม่มีสาระอะไรให้อ่านบ้างบางส่วน : )
ยามนั้นพลบค่ำแล้ว ไฟวอมแวมกำลังงามตา ฉันพบว่าที่นั่งประจำของชมรมเรา ฯ คับคั่งด้วยแขกเหรื่อแมนล้วนเต็มโต๊ะ นอกจากจะมี “พี่พจน์” ที่เพิ่งกลับจากเรือนนวดแผนไทยที่พี่ท่านใช้บริการเป็นประจำ ก็ยังมี“ท่านวรแซม” หรือ อาจารย์ วรศักดิ์ มหัทธโนบล อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นเจ้าของคอลัมน์ “เงาตะวันออก” ในนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ รวมถึงเป็นสมาชิกขาประจำของชมรมเราอีกท่านหนึ่ง
....
วันนี้นอกจากอาจารย์แซมแล้ว เรายังมีคณาจารย์ มาร่วมวงด้วยหลายท่าน ซึ่งแต่ละท่าน ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เยี่ยมยุทธ์จากรั้วจามจุรีและท่าพระจันทร์ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ไชยันต์ ไชยพร ,อาจารย์วีระ สมบูรณ์ ,อาจารย์พวงทอง รุ่งสวัสดิทรัพย์ ภวัครพันธุ์- อาจารย์นิติ ภวัครพันธุ์ (อาจารย์พวงทองกับอาจารย์นิติ พาหนุ่มน้อยตัวเล็กมาด้วย) รวมถึงอาจารย์ธาวิต สุขพานิช แห่งสำนักจักรวาลวิทยาท่าพระจันทร์ด้วยอีกคน คณาจารย์เยอะแยะขนาดนี้ ชมรมวันศุกร์ของเราจึงคล้ายจะเป็นมหาวิทยาลัยวันศุกร์ไปกลายๆ
หลายอาจารย์ในวงเราวันนี้ ฉันเคยมีโอกาสได้พบปะพูดคุยมาบ้าง จึงพอจะคุ้น แต่บางท่านก็เพิ่งเจอกันครั้งแรก อย่างอาจารย์ธาวิต สุขพานิช จากท่าพระจันทร์ ฉันเห็นหน้าทีแรกก็ต๊กกะใจ นึกว่า อาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ มานั่งร่วมวงกะเราด้วย
อาจารย์ธาวิตนั้นจิ๊กโก๋มาก เมื่อฉันทักว่า "อาจารย์หน้าเหมือนอาจารย์นิธิมากเลยนะคะ" อาจารย์ธาวิตยักไหล่ ยกลูกมะพร้าวอ่อนขึ้นจิบน้ำ แล้วบอกว่า "โอ๊ย ผมหนุ่มกว่า แล้วก็หล่อกว่าอาจารย์นิธิตั้งเยอะ"
นานๆ ที จะมีโอกาสได้นั่งอยู่ท่ามกลางคณาจารย์มากมายขนาดนี้ ในคืนนี้ฉันจึงยิงคำถามคาใจแบบไม่ยั้ง ว่าก็ว่ากันตั้งแต่เรื่องรัฐธรรมนูญฉบับในดวงใจ อาจารย์ธาวิต ชอบรัฐธรรมนูญปี 2517 ด้วยเหตุผลว่า “เป็นฉบับที่ดีที่สุด” เสียดายที่เขาไม่ได้เอามาให้โหวตคราวนี้น่ะสิ'จารย์
อะไรสักอย่าง ที่ทำให้ฉันฝังหัวมาตลอดว่า ฝั่งนักวิชาการเขาคง “โหวต โน” ให้กับรัฐธรรมนูญ’ 50 อย่างไม่มีข้อกังขา ฉันจึงเซอร์ไพรส์มาก เมื่ออาจารย์ไชยันต์ ไชยพร คนผมยาวที่เคยฉีกบัตรเลือกตั้งจนได้ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกฉบับในประเทศไทยมาแล้ว (แถมมาวันนี้อาจารย์แซมยังบอกให้พวกเราระวังตัวดีๆ เพราะบางทีอาจารย์ท่านอาจจะฉีกบิล!) บอกกับฉันว่า อาจารย์ตั้งใจที่จะ “โหวต รับ” รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ด้วยเหตุผลสามข้อ ซึ่งฉันจำไม่ได้แล้วว่ามันอะไรบ้าง
เซอร์ไพรส์ตามมาติดๆ ก็คือ อาจารย์วีระ สมบูรณ์ คนสำนักสีชมพูที่เดียวกับอาจารย์แซม แถมยังเป็นคอลัมนิสต์ของมติชนสุดสัปดาห์เหมือนกันด้วย อาจารย์วีระเคยแวะเวียนมาวงเราอยู่บ้าง แต่มักจะนั่งฟังเป็นส่วนใหญ่ แต่คืนนี้อาจารย์วีระบอกฉันว่า " รัฐธรรมนูญก็เหมือนนิตยสารล่ะครับ มันก็จะมีฉบับใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ บังเอิญผมชอบรับนิตยสาร ก็เลยตั้งใจว่าผมจะโหวตรับครับ เพราะอยากรู้ว่ารับแล้วมันจะเป็นยังไงต่อ จะมีอะไรดีขึ้นกว่าตอนนี้ไหม”
ยิ่งดึก ประเด็นยิ่งแตก ฉันก็รีบฉวยโอกาสแทรกคำถามส่วนตั๊วส่วนตัว เช่นว่า “อาจารย์คะ ในวงการหนังสือ เห็นเขาว่าโฆษณาไม่เข้า เพราะลูกค้าไม่อยากใช้เงิน เขาว่าปีนี้จะมีนิตยสารต้องปิดตัวหลายเล่ม แล้วก็มีปิดโรงงาน มีเลย์ออฟพนักงานออกมาเรื่อยๆ อาจารย์ว่ามันจะแย่กว่าสมัยฟองสบู่แตกอย่างที่เขาว่ากันไหมคะ”
....
บางทีเราอาจจะดูเหมือนว่ายังโชคดี แต่เอาเข้าจริง เราจะหายใจต่อไปได้อีกกี่วัน ถ้าบ้านเมืองเราเป็นแบบนี้ แล้วเพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมวงการของเราล่ะ จะเป็นอย่างไร
อาจารย์ธาวิตตอบทันทีทันใดว่า “คงไม่หรอก เพราะหลายปีมานี้ ระบบต่างๆ มันวางไว้แข็งแกร่งมาก ที่จะกระทบตรงๆ บ้างตอนนี้ก็พวกนำเข้าส่งออกนั่นแหละ”
แม้อาจารย์จะบอกว่า "จักรวาลวิทยา" หมายถึงยังมีหลายอย่างในจักรวาลที่ยังไม่รู้ และฉันไม่รู้หรอกว่า คำตอบของอาจารย์จะตัดสินอะไรได้มากน้อยแค่ไหน แต่ฉันรู้อย่างหนึ่งว่า หลังจากได้ฟังคำตอบนั้นแล้ว ฉันก็กินดื่มได้รสชาติดีขึ้นเยอะ!
“อาจารย์คะ แล้วอาจารย์คนนั้นที่อยู่สายวิพากษ์เหมือนกัน แต่ทำไมเขาไม่มาเข้ากลุ่มจักรวาลวิทยากับพวกอาจารย์ด้วยล่ะคะ" ฉันอาศัยลูกชุลมุนยิงคำถามนั้น
อาจารย์ธาวิตตอบทันทีว่า “โอ๊ย รายนั้นแกทนฟังคนอื่นวิพากษ์ตัวแกไม่ได้หรอก” ในขณะที่อาจารย์ไชยันต์ก็เสริมว่า “แกวิพากษ์คนอื่นได้ แต่ไม่ชอบให้คนอื่นมาวิพากษ์ตัวแกหรอก แกรับไม่ได้”
อ๊ะ อ๊ะ อาจารย์กลุ่มนี้เท่โคตรเลยเน้อ ฉันนึกในใจ ถามจริง ตอบตรง ไม่มีเก๊ก ไม่มีกั๊ก ความรู้แน่นปึ้กแบบไม่มีข้อกังขา แถมยังหาญกล้า ไม่ห่วงหล่อ ไม่ห่วงสวย ผู้คนแบบนี้แหละที่ร่วมสนทนาด้วยแล้วมันส์ …เพราะเราก็จะคุยกับพวกเขาเหล่านั้นแบบไม่กั๊กเหมือนกัน วงสนทนาเช่นนี้มักก่อประโยชน์ยืดเยื้อทางปัญญาดีนัก
ด้วยเหตุนี้ คืนวันศุกร์ของชมรมเราจึงยาวนานอีกคืนหนึ่ง
ยิ่งดึก ยิ่งคึกคัก เพราะเราจะมีเพื่อนพ้องน้องพี่สมาชิกขาประจำทยอยออกมาจากตึกมติชนเข้าสมทบวงเราอีกหลายชีวิต ผลัดกันถาม ผลัดกันตอบ ยิงมุกแตก ฮากระจาย ความเคร่งเครียดจากเดินทาง รวมถึงความเหนื่อยล้าจากการงานมาตลอดสัปดาห์หายเป็นปลิดทิ้ง
ก็ด้วยเหตุนี้เอง ไม่ว่าจะมีธุระติดพันแค่ไหน ดึกดื่นเพียงใด ฉันจึงไม่ยอมพลาดคืนวันศุกร์ของชมรมเราอย่างเด็ดขาด แม้ว่าบางครั้งจะคึกคักขนาดคุยกันจนฟ้าแจ้งจางปางคาตาก็เคยมาแล้ว
ดึกดื่น งานเลี้ยงของเราก็ยังไม่มีแววจะเลิกรา ในตอนหนึ่งของการสนทนา อาจารย์ไชยันต์บอกฉันว่า อาจารย์วีระเล่นดนตรีเก่งมาก "ขนาดพี่จิ - จิรพรรณ อังศวานนท์ ก็เคยชมว่าเก่งมาก " ฉันเลยขอให้ “ดลลี่” พนักงานเสิร์ฟดีเด่นของเราและของร้าน ไปหยิบกีตาร์ในร้านมาให้อาจารย์หน่อย ดลลี่ก็หยิบมา ปรากฏว่ามันเป็นกีตาร์ที่มีสายเหลือเพียงห้าสาย
แต่ขอโทษนะ...แม้ว่ากีตาร์จะให้สายมาเพียงเท่านี้ ก็มิอาจปิดกั้นฝีไม้ลายมือระดับเทพของท่านอาจารย์วีระได้ คืนนั้นฉันลองขอเพลงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Take Five ,The Girl from Ipanema และอีกหลายเพลงของ Antonio Carlos Jobim รวมถึงเพลงแจ๊สบรรลือโลกอีกมากมาย ปรากฏว่าอาจารย์วีระเล่นได้หมด เอิ๊ก! เนี่ยห้าสายเองนะ!
อาจารย์ธาวิตเห็นอาจารย์วีระเพลิดเพลินสุดๆ กับกีตาร์ห้าสาย จึงหันมาพูดกับฉันว่า เมื่อเร็วๆ นี้ก็เล่นกีตาร์ร้องเพลงกันแบบนี้แหละ โดยมีอาจารย์ไชยันต์เป็นคนร้องเพลง "ผมเอาถั่วฝักยาวขว้างมันก็ยังไม่เลิก" haha
ยิ่งดึก กีตาร์ห้าสายยิ่งทำให้ขัดใจมากขึ้น เหมือนกินข้าวไม่อิ่มอะไรอย่างนั้น เมื่อพี่พจน์ขอลากลับบ้านตอนเกือบตีหนึ่งชาวชมรมวันศุกร์เราจึงพร้อมใจชักชวนคณาอาจารย์ไปต่อกันที่ร้าน "กางแปลง" ซอยรัชดาฯ 32 (ตรงข้ามศาล.... ถ้าสนใจเดี๋ยวจะหาแผนที่ร้านกับเบอร์โทรมาแปะให้ค่ะ) ผับเปิดใหม่ของ “ต้น” พัลลภ สามสี ผู้ช่วยบรรณาธิการสำนักพิมพ์มติชน ที่ลงหุ้นทำกับ “ตู่" พอลเทพ เฮง หัวหน้ากองบรรณาธิการนิตยสาร way กับเพื่อนพ้องอีกหลายคน พวกเราเคยยกโขยงมากันแล้ว จึงรู้ว่าที่นี่มีเพลงบอสซ่าเล่นสดๆ เพราะๆ ให้ฟังกันเต็มอิ่ม คืนนี้พวกเราย้ายคณะกันไปที่นั่น ด้วยความหวังว่าจะได้ฟังเพลงเล่นเพลงกันจริงๆ จังๆ หน่อย
…………
คืนวันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม 2550 บรรยากาศร้าน “กางแปลง” รัชดาฯ 32 ช่างคึกคักอย่างยิ่งเดินทางไปถึงร้านราวๆ สองทุ่มครึ่ง “เสาร์ เช้าวันใหม่” และ “เปิ้ล นาโช่” “ก็พลันพบหนุ่ม “เช ยังไม่ตาย” เชตวัน นั่งตระหง่านหลังตรงอยู่ด้านนอก ถามสารทุกข์สุขๆ ดิบๆ ได้ความว่า ชวนสหายนักข่าวจาก “มติชน” มานั่งละเลียดเบียร์ได้ระยะหนึ่ง แต่ฝ่ายสหายนั้นเพิ่งแยกย้ายไปเมื่อครู่
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา นัยว่ากลัวหนุ่มเชจะเหงา (ต้องรีบชวนเพราะเดี๋ยวเชเหงาแล้วจะลุกขึ้นร่ายกวี-ฮาๆ) จึงชักชวนให้มานั่งร่วมโต๊ะกันโดยดีอย่าอิดออด พอเบียร์ “ขวดเขียว” กับ “ขวดชา” เริ่มเดินเครื่องไปสักพัก ลอบสอบถามความเคลื่อนไหวม็อบ นปก। ที่หนุ่มเชไปเฝ้าอยู่หลายวัน จนเกือบโดนลูกหลงถูกขวดโค้กปาหัว ทราบว่า บรรดาแกนนำยังพอมีกำลังใจดีอยู่ เมื่อเห็นหน้าหนุ่มเชยืนดักรออยู่นอกลูกกรงก็ยังยิ้มออก ส่งตาหวาน ชูไม้ชูมือส่งซิก॥ “พี่ยังไหวอยู่!”
......
สบช่องเลยเล่าข่าวลือลับๆ ล่อๆ ที่ได้ยินมาว่า “ผมได้ยินมาว่างานนี้จุดจุดจุดเปลี่ยนท่าทีมาเป็นคนดุดันสุดลิ่มทิ่มประตูแบบนี้ก็เพราะ มีคนแอบถ่ายเทปลับของนักการเมืองคนหนึ่งขณะดู๋ดี๋กับหนุ่มๆ เอาไว้ แล้วก็ขู่ว่าจะเอามาเปิดเผยแพร่แบล็กเมล์แน่ๆ ถ้านักการเมืองคนนั้นไม่ยอมเล่นตามเกม!” เล่าจบหนุ่มเชบอก “แต่ผมเพิ่งเคยได้ยินนี่แหละพี่??” จึงตอบกลับไปว่า “อืมม์ คอยดูต่อไปละกัน บางทีข่าวลือนี่แหละ บางครั้งก็มักกลายเป็นข่าวจริง!-ฮาๆ”
.....
พูดเรื่องการเมืองไปไม่กี่นาทีก็ปวดกบาลสิครับทั่น เพราะไม่เหมาะกับไพร่อย่างกระผม ซึ่งควรจะสนใจแต่เรื่องปาก ท้อง และเครื่องดองของเมาเท่านั้นตามประสาแฟนพันธุ์แท้ “โลกียชน” สรุปแล้วเลยเข้าเรื่องที่ตัวเองถนัด นัดแนะชักชวนหนุ่มเชว่า วันไหนๆ ว่างๆ จะพาไปทัวร์ “ทริปพิเศษ—ที่ร้านสอ।—” ด้วยกันซะหน่อย เพื่อดับความรุ่มร้อนจากปัญหาบ้านเมืองปัจจุบัน!ว่ากันต่อถึงเรื่องของ “กางแปลง” ก็ปรากฎว่า “อร่าม เกศาสลวย” สหายวัยเยาว์ของ “ต้น ซีร้ายยย์” ยังคงมานั่งดื่มกินอย่างต่อเนื่อง
......
คืนนี้ที่ ‘กางแปลง’ แม้จะมี “มังกรหนุ่ม” มากหน้าหลายตาในวงการสื่อมาอุดหนุนด้วยความเมตตาอย่างยิ่งแล้ว ก็ยังพิเศษสุดแสนทบเท่าทวีไปกว่านั้น เมื่อ “ชมรมวันศุกร์” นำโดยรองผู้จัดการชมรม (สมทบด้วยปอนด์ นาโช่, หมอโชติ ภูมิศักดิ์, จำดิ๋ม, น้องอ๋อม) ได้ยกขบวนจากประชาชื่นมาต่อกันที่นี่ พร้อมชักชวน “แขกรุ่นเฮฟวี่เวท” มาร่วมวงด้วย คือ อาจารย์วรศักดิ์ มหัทธโนบล, อาจารย์วีระ สมบูรณ์ และอาจารย์ไชยันต์ ไชยพร (เจ้าตำรับอารยะขัดขืน) สามจอมยุทธจากสำนักสีชมพู สามย่าน
วว่าประเด็นที่ “มังกรลายคราม” คณะนี้ถกเถียงต่อเนื่องมาจากวงประชาชื่นเป็นเรื่องการรับ หรือ ไม่รับรัฐธรรมนูญ
ค่ำคืนนี้ของ “เสาร์ เช้าวันใหม่” จบลงด้วยการโบกมือลาอาลัยมิตรสหายหลายวัยไปล่วงหน้าก่อน ปล่อยให้มังกร-ผู้ยิ่งใหญ่ รื่นรมย์กันต่อไป โดยมี “ต้น ซีร้ายยย์” คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ชนิดน้ำไม่ให้ขาด โซดาไม่ให้พร่อง ส่วนน้ำแข็งนั้นที่ ‘กางแปลง’ เรามีคติพจน์ว่า หลังเที่ยงคืนแล้วตักฟรีตลอดเวลาแบบนันสต็อป ถ้าไม่กลัวเป็นหวัดตาย หรือ ต่อมทอนซิลอักเสบ ก็เชิญบริโภคน้ำแข็งตามสะดวก-ฮ่าๆ
…………
ด้วยเหตุนี้
ต่างเพศ ต่างวัย ต่างมา ต่างไป
บางคนวันพรุ่งต้องทำงานต่อ
บางคนได้หยุดก็จริง แต่ก็หอบงานกลับมาทำต่อที่บ้าน
บางคนกำลังจะกลับบ้านต่างจังหวัด
บางคนตั้งใจว่าเมื่อตื่นมาในวันรุ่งขึ้น จะไปทำบุญ
แล้วลองวีคเอ็นด์ที่ผ่านมาของคุณล่ะเป็นอย่างไร?
Don't cry baby
Artist : Madeleine Peyroux
Album : Careless love
All Rights Reserved।
2007 Copyright©'prypansang
..คนอ่าน