last update : Feb,15-2010
ของกินริมโขง มากมายมากมี
ส้มตำเชียงคานรสเด็ด
งานเขียนของ"น้องหมิว หมูหวาน"เรณุมาศ พลพันธ์นักเรียนชั้นม.5/2 โรงเรียนเชียงคาน.. น้องหมิวเป็นนักเรียนสังกัดค่ายอบรมนักเขียนน้อยสีชมพูของ'ปราย พันแสงนั่นเองล่ะค่ะ ขอโปรโมทนิดนึงนะ เพราะน้องเค้าเขียนได้น่ารักน่าแซ่บมากจริงๆ เสียดายลืมถ่ายรูปส้มตำเชียงคานมาประกอบเรื่องด้วย แต่เอาน่า แค่ตัวหนังสืออย่างเดียวก้อ "น้ำลายแตก" แบบที่น้องเค้าว่าเหมือนกัน
...
โอ้โห...เมืองเชียงคาน เมืองที่เต็มไปด้วยความเสน่ห์ เมืองที่เงียบสงบ ผู้ใดเข้ามาแล้วต้องกลับมาอีก เมืองเชียงคานมีอาหารหลายอย่าง ขอยกตัวอย่างเป็นอาหารรสแซ่บอยู่อย่างหนึ่ง ที่คนทั้งโลกต้องยกนิ้วให้ ซึ่งมันก็มีอาหารชนิดนี้อยู่ทั่วไป นั่นมันก็คือ... คือ... แล้วก็คือ... “ส้มตำ” แค่พูดชื่อน้ำลายก็แตกแล้ว
...
ส้มตำเป็นอาหารรสเด็ด เผ็ด จัดจ้าน มีขายอยู่ทั่วไปทุกบ้านเต็มเมือง แต่ส้มตำที่ไหนๆก็คงอร่อยสู้ส้มตำเชียงคานไม่ได้แน่ๆ จะขอยกตัวอย่างร้านส้มตำอร่อยๆ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเชียงคานที่เป็นร้านมีที่นั่งสบายๆ สักสองสามแห่งก็แล้วกัน
...
ร้านส้มตำที่ชาวเชียงคานรู้จักกันดี และมักจะชวนเพื่อนพ้องคนต่างถิ่นหรือคนรู้จักไปกินกัน ก็เช่น ร้านกุมารทอง อยู่ถนนศรีเชียงคาน ซอย 17(ล่าง) อยู่กลางซอย อีกร้าน คือ ร้านป้าจิตร อยู่หน้าโรงเรียนเชียงคานวิจิตวิทยา บริเวณถนนเชียงคาน-ปากชม และอีกร้านก็ต้องเป็นร้านพี่ปลา อยู่ถนนศรีเชียงคาน ซอย 18(บน) ข้างวัดป่าใต้
..
จุดเด่นของร้านส้มตำทั้งสามแห่งนี้ คือ จะมีส้มตำของแต่ละประเภทให้เลือกเยอะมาก คือมีทั้ง ตำไทย ตำลาว ตำปูปลาร้า ตำซั่ว (ซั่ว หมายถึง มั่ว เป็นส้มตำที่ใส่ขนมจีนและผักทุกชนิด) ตำแตง ตำถั่ว ให้เลือกแซ่บๆ กันตามใจชอบและตามความสามารถของท้องไส้
..
เคล็ดลับของส้มตำทั้งสามร้านนี้คือ ปลาร้า ปลาร้าของทั้งสามร้านนี้จะต้มสุกแล้วเพื่อให้ปลอดภัย ถ้าจะให้เปรียบเทียบระหว่างส้มตำที่ใส่ปลาร้ากับส้มตำที่ไม่ใส่ปลาร้า ความอร่อยจะแตกต่างกันมาก ซึ่งคนเชียงคานส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่าส้มตำใส่ปลาร้าอร่อยที่สุด
...
นอกจากความอร่อยจากการใส่ปลาร้าแล้ว ส้มตำเชียงคานก็มีจุดเด่นอีกอย่างคือ เส้นมะละกอที่ไม่ใหญ่ไม่แข็ง เพราะจะขูดเป็นเส้นเล็กๆ น้อยๆ เครื่องปรุงส้มตำเชียงคานมีไม่มากและคงไม่แตกต่างจากส้มตำทั่วไปนัก เครื่องปรุงก็จะมี เส้นมะละกอ พริก มะเขือเคือ (มะเขือเทศ) กุ้งแห้ง
...
ส่วนวิธีการทำนั้นไม่ยากอย่างที่คิดหรอก ก็แค่โขลกพริกกับมะละกอพอแหลก ใส่ถั่วฝักยาว มะเขือเคือ(มะเขือเทศ) ใส่น้ำปลา น้ำตาล ชูรสนิดหน่อย และบีบน้ำมะนาวลงเล็กน้อย รับประทานกับผักสด เช่น กะหล่ำปลี ผักบุ้งไทย และส่วนอาหารอื่นๆ ที่จะกินกับส้มตำก็มีหลายอย่าง ที่ขาดมิได้ก็คือ ข้าวเหนียว ไก่ย่าง แคบหมู โอยเยอะตาแป๊ะตาลายจริงๆ
...
ถ้าจะกินส้มตำให้อร่อยต้องกินกับข้าวเหนียวร้อนๆ มีอีกอย่างที่อยากจะแนะนำ ก็คือ เรื่องการกินข้าวเหนียว เวลากินข้าวเหนียวกับอะไรก็ตาม บางคนกินข้าวเหนียวโดยเอาช้อนส้อมจิ้มข้าวเหนียวใส่ปาก เฮ้อ...แบบนั้นมันจะไปอร่อยอะไร
...
อยากจะให้ลองใช้วิธีปั้นข้าวเหนี่ยวแบบคนเชียงคานจริงๆ ดูค่ะ คือล้างมือให้สะอาด แล้วควักเอาข้าวเหนียวจากกระติ๊บ ประมาณขนาดปั้นได้พอคำ แล้วใช้ข้าวจิ้มส้มตำนิดหน่อย(จะได้แค่น้ำๆติดข้าว) แล้วใส่ปากเคี้ยวลองดูบ้าง จะให้ความรู้สึกและรสชาติอร่อยกว่ากันเยอะ และไม่ต้องอายใครด้วย เพราะมันก็คือวิธีกินข้าวเหนียวอย่างแท้จริง
..
เล่ามาถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงสงสัยสิว่า ทำไมไม่พูดถึงเรื่องราคา ไม่ต้องห่วงเลยว่าส้มตำเชียงคานจะมีราคาแพง ราคาเป็นกันเอง คือ ตำไทย 25 บาท ตำลาว 20 บาท ตำปูปลาร้า 25 บาท ข้าวเหนียวกระติ๊บ 10 บาท ไก่ย่าง 25 บาท เท่านั้นเองค่ะ
...
..
จานข้างบนนี้หน้าตาคุ้นๆ ไหม หน้าตาเหมือนขนมจีน+ต้มเลือดหมู หรือก๋วยเตี๋ยวที่ใช้เส้นเป็นขนมจีน นี่คืออาหารจานเด็ดของดีอีกอย่างของเมืองเชียงคาน ที่เรียกว่า "ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว" โดยจะมี"น้ำแจ่ว"เป็นพริกสดตำพอบุบๆ ใส่เป็นเครื่องปรุงสำคัญ นอกนั้นจะใส่น้ำตาล หรือน้ำปลาเติมไปด้วยก็ได้ แต่ฉันเลือกชิมโดยใส่แต่เพียงน้ำแจ่ว รสชาติกลางๆ ไม่จัดจ้าน อร่อยดีทีเดียว
...
คนเชียงคานทำ"ข้าวปุ้น"หรือ"ขนมจีน"เก่งมากเลย มีอาหารคล้ายๆ กันนี้อีกอย่างคือ "ข้าวปุ้นฮ้อน" คนขายจะตักแป้งเหลวๆ ก้อนหนึ่ง ใส่ในกระบอก แล้วบีบเส้นแป้งลงไปในน้ำเดือด ก่อนจะตักเส้นขนมจีนขนาดพอจานนั้นลงไปในอ่างน้ำเย็นๆ สาวขึ้นมา แล้วเอาลงไปลวกอีกครั้งพร้อมผักสดเช่น ถั่วงอก ผักบุ้ง ก่อนจะตักใส่จานส่งให้เรา เติม"น้ำแจ่ว"หรือน้ำส้ม น้ำตาล น้ำปลา ตามใจชอบ
..
"ข้าวปุ้นฮ้อน"ต่างกับ"ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว"คือ ข้าวปุ้นฮ้อนไม่มี "ต่อน"หรือชิ้นเนื้อ (โปรตีนสัตว์) เช่นก้อนเลือดหมู หรือชิ้นหมู เหมือนกับข้าวปุ้นน้ำแจ่ว
..
..
ต้มเลือดหมูจริงๆ ก็ขึ้นชื่อของเชียงคานเหมือนกันนะ น้ำซุปเข้มข้นอร่อยมากทีเดียว กินกับข้าวสวยถ้วยนึง อิ่มไปได้เลยครึ่งค่อนวัน
..
หน้าตา "เมี่ยงเชียงคาน" ขอบอกว่า"เครื่อง"เยอะมากกกกก ....วิธีกินก็คือหยิบใบชะพลูขึ้นมาหนึ่งใบ หยิบผักกาดหอมขึ้นมาฉีกหนึ่งก้าน ใช้เป็นห่อเมี่ยง หยิบเส้นขนมจีนใส่ลงวาง แล้วหยิบ"เครื่อง" เติมลงไปตามใจชอบ ฉันหยิบเมี่ยงใส่ปากหลายคำ ขอบอกเลยว่าไม่มีคำไหน ที่สามารถใส่เครื่องได้ครบทุกชนิด เพราะมันจะ"ล้น"ห่อออกมาอยู่เรื่อย ฉันว่ามันคล้ายกับ"สลัด"+แหนมเนือง+เมี่ยงคำใบชะพลูแบบภาคกลางและภาคอื่นๆ (แต่ไม่เหมือน"เมี่ยง"ใบไม้ของภาคเหนือเรานะ)
.. นี่คือ"แหนมคลุก" อาหารขึ้นชื่ออีกอย่างของเชียงคาน ที่ใครมาแล้วต้องลอง ดังสุดๆ คือแหนมคลุกป้าแห่ว(ถนนศรีเชียงคานซอย 7)ที่เลื่องชื่อมานานกว่าสามสิบปี ขายตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงเที่ยงก็หมดเกลี้ยงแล้ว ป้าแห่วขายห่อละสามสิบ หนึ่งห่อกินอิ่มได้สองสามคน เพราะเยอะมาก นี่ยังไม่รวมผักสดๆนานาชนิดที่ให้มาอีกหนึ่งถุงใหญ่ๆ มีคนบอกว่ากินแหนมคลุกกับส้มตำเชียงคานจะอร่อยมาก แต่ยังไม่เคยลองจับคู่กันสักที.....................
....…คนอ่าน