เพราะบางทีเราอาจจะเอาไปทำเป็นฝาร้านหนังสืออ่ะค่ะ :)
............................................................................................................................................................................................... PAI--LOW SEASON, HIGH SPIRIT[ตอนที่ 15] บ้านปายเรือนปาย :)
Last update : June,25-2009
...วันนี้คุยกับน้องมะโหน่ง มีคำถามว่า "พี่คิดจะไปตั้งรกรากถิ่นฐานอยู่ที่เมืองปายจริงๆหรือ" ถามวันนี้ นาทีนี้ ณ เวลานี้คือ "ใช่"
.....
แต่ในความเป็นจริง ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าจะฝังรากอยู่ที่นี่ได้ลึกและนานแค่ไหน อย่างไร แต่ความจริงในวันนี้ --มันบอกเราว่าทำได้
.............
พี่ๆ เพื่อนๆ ซึ่งไปอยู่ปายกันมานานหลายปี มักจะบอกฉันด้วยความเป็นห่วงว่า อย่าเพิ่งคาดหวังมากนะ เพราะหลายปีที่ผ่านมานี้ มี"คนเมือง"จำนวนมาก หลั่งไหลมาที่ปาย ด้วยเหตุผลต่างๆ กันไป
...
บางคนเอาเงินมาทิ้งไว้ที่นี่จำนวนมาก บางคนวาดฝันไว้สวยหรู แต่จบลงด้วยสิ่งตรงกันข้าม บางคนก็ไปทำอะไรเน่าๆ ทิ้งไว้ให้ผู้คนเล่าขานกันอยู่ทุกวัน คำบอกเล่าเหล่านั้นล้วนทำให้ฉันต้องเก็บมาคิดทบทวนอย่างระมัดระวัง
....
โชคดีอย่างหนึ่งคือฉันไม่ได้มีเงินทองมากมาย พอที่จะเอาไปโปรยทิ้งในหุบเขาเล่นเหมือนคนอื่นเขา ร้านหนังสือที่คิดจะทำ ก็ไม่ได้คิดว่าต้องลงทุนหลายแสนหลายล้านเหมือนใครเขา (เพราะมันไม่มีน่ะ ไม่ใช่อะไร) จริงๆ ในเรื่องการลงทุน เรามีจำกัดมากเสียจนคิดว่า อาจจะต้องใช้เวลา"ลงมือเอง"เสียมากกว่า แต่ฉันก็มีความสุขนะ ที่ได้คิดอะไรแบบนี้
...
คนรักการอ่านหนังสือจริงๆ ถึงร้านเก่าๆ หนังสือเยินๆ ขาดๆ ถ้ามันเป็นหนังสือที่ดี
เราก็อ่านกัน --- ใช่มั้ย!
..........
ฉันเคยไปเที่ยวต่างประเทศ เจอร้านหนังสือข้างแม่น้ำ แค่มีกล่องไม้ใส่หนังสือ มีฝาปิด กันแดดกันฝนหน่อย คนก็แย่งกันอ่านแย่งกันซื้อเสียจนอดขำไม่ได้ ฉันไม่คิดว่าการทำร้านหนังสือ ประเด็นมันจะอยู่ที่ร้านเท่าไหร่ ฉันคิดว่า มันอยู่ที่ "หนังสือ" เสียมากกว่า
..
แล้วค่อยๆ ดูกันไป ว่าฉันจะคิดถูกบ้างหรือไม่ :)
...
สิ่งที่ทำให้ฉันอยากทำร้านหนังสือที่ปาย ส่วนหนึ่งก็เพราะบ้านเรือนของผู้คนที่นี่ ยังมีลักษณะเหมือนบ้านเรือนสมัยก่อนแถวๆ บ้านเกิดในต่างจังหวัดของฉันเอง
.....
ปัจจุบัน แถวบ้านเกิดฉันก็มีการเปลี่ยนแปลง รื้อบ้านไม้ทิ้ง สร้งเป็นเป็นบ้านปูนบ้านตึก ตามสมัยไปหมดแล้ว แม้แต่บ้านฉันเอง แม่ก็ยังรื้อทิ้งสร้างใหม่ไปกับเขาด้วยเช่นกัน แถมฉันยังไม่มีสิทธิ์เอาไปทำเป็นร้านไม่ได้ด้วยนะ เพราะแม่เขาก็มีเรื่องต้องใช้พื้นที่ของเค้า :
...
แต่ที่ปาย บรรยากาศที่นี่ทำให้ฉันรุ้สึกเหมือนกลับไปอยู่บ้านเกิดวัยเด็กได้อีกครั้ง ที่นี่ยังมีบ้านไม้เก่าๆ สวยๆ เหลือไว้ให้ชื่นชมเยอะมาก และที่สำคัญ ร้านหนังสือที่เราจะทำ ก็เป็นร้านหนังสือในบ้านไม้อย่างที่อยากได้เสียด้วย
...
PAI--LOW SEASON, HIGH SPIRIT[ตอนที่ 14] วัดใจวัดปาย
ด้วยสายไฟยุ่งๆ :)
Last update : June,24-2009
...
ไปปายรอบนี้ เพื่อนฉันรับหน้าที่เป็นสารถีขับรถพาขึ้นไป เราออกจากเชียงใหม่ประมาณบ่ายแก่ๆ ก็ขับไปเรื่อยๆ แวะกินกาแฟตามร้านข้างทางบ้าง เพื่อนจอดแวะถ่ายรูปบ้าง ก็ยังไปถึงปายประมาณบ่ายสามโมงเศษๆ ฉันยังขำๆ เพื่อนอยู่ว่า ขนาดขับไปบ่นไป ยังไปถึงที่หมายไวกว่าที่คิด
...
"ทำไมมาปายเที่ยวนี้ ขับรถได้สบายดีจังเลยวะ เมื่อก่อนฉันมา ลำบากจะตาย" นั่นเป็นส่วนหนึ่งของคำบ่น เมื่อก่อนของเธอก็คือสิบปีที่แล้ว คงพร้อมๆ กับฉันยุคนั้นแหละ แต่เรามาคนละกลุ่มกัน
..
"ฉันว่าเราโตขึ้นหรือเปล่า เลยรู้สึกว่าทางมันใกล้ขึ้น หรือทางมันดีขึ้น"ฉันทำเป็นสันนิษฐานไปตามประสา เพราะเคยกลับไปโรงเรียนเก่า รู้สึกว่าทำไมสนามบาสมันเล็กจังฟระ สมัยก่อนเราว่ามันกว้างงงงงงงงงมากกกก ก็ด้วยหลักเดียวกัน คือเราแก่ลง อย่างอื่นก็เลยเล็กลงไปตาม ฮ่า
..
"ฉันว่าไม่ใช่หรอก เค้าต้องทำถนนใหม่แน่ๆ เลย ถนนมันดีมากเลย ขับสบายมาก"เพื่อนว่า "แต่ทำไมเสาไฟฟ้ามันเยอะแยะขนาดนี้วะ จะอะไรกันนักกันหนา" สรุปว่า ที่เธอบ่นไปตลอดทาง คือเสาไฟใหญ่เกินไป แล้วก็มีเยอะเกินไป ---เฮ้อ! คนเรานะ :)
.............................
..................
................
.......................
......................
Last update : June,23-2009
........
บางครั้งชีวิตมันก็มีหนทางของมันเอง วันนี้ฉันเพิ่งคุยกับเพื่อนเรื่องชะตากรรมชีวิต บางทีคนข้างบนเค้าอาจจะเซ็ทระบบทุกอย่างมาให้เราเรียบร้อยแล้วก็ได้ เราแค่มาดาวน์โหลดโปรแกรมเพิ่มนิดหน่อยเพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ..................ฉันเคยดูหนังเรื่องหนึ่ง มนุษย์ผู้เจ็บปวดทุกข์ยากเอ่ยปากตัดพ้อกับเบื้องบนว่า คนบนฟ้าทอดทิ้งเขา ไม่ดูแลเขา ทำให้เขาสิ้นศรัทธาแล้วต่อทุกสิ่ง แต่ก็มีคนแย้งว่า คุณแน่ใจได้อย่างไรว่าคนบนฟ้าลืมคุณ บางทีคนบนที่สูงพวกนั้น อาจจะกำลังขะมักเขม้นฝึกฝนบทเรียนให้คุณอยู่ หรือไม่ ก็อาจจะกำลังสลักเสลาคุณให้กลายเป็นมนุษย์ที่สวยงามสมบูรณ์แบบที่สุดต่างหาก
.............
ทุกครั้งที่คุณเจ็บปวด นั่นอาจเป็นช่วงเวลาที่คนบนฟ้าทำงานตอกลิ่ม ตอกสิ่ว ปักเสาเข็ม สลักเสลาคุณให้งดงามเเกลี้ยงเกลากว่าเดิมก็ได้
ปั้นจั่น ตอกเสา ตอกลิ่มที ตอกสิ่วที เราจะต้องเจ็บปวดเจียนตายก็ตาม
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่สวยงาม
ในความสวยงามแบบนั้น เราจะต้องไม่สิ้นหวัง ! ---
.............................................................................................................ละอองฝนในหุบเขา ฉ่ำเย็น เงียบ และเบา
ปราศจากสุ้มเสียง ...แม้ฟ้าคำราม
Last update : June,22-2009
.........
ที่พักของเราคราวนี้อยู่เชิงเขา ทางเดียวกับทางไปพระธาตุแม่เย็น เป็นที่พักระดับสองสามสี่ดาวกับอีกสองแฉกประมาณนั้น น้องที่นำกุญแจห้องพักมาให้เราถามว่า "พี่ใช่มั้ย ที่จะมาเปิดร้านหนังสือใหม่ที่ปาย" เราถามว่ารู้ได้ไง น้องเค้าตอบว่า "โอ๊ย เค้ารู้กันทั่วทั้งปายมาตั้งหลายวันแล้วพี่"
...
ภายในห้องพัก มีแอร์ มีเครืองทำน้าอุ่นครบครัน คนดูแลบออกว่าปกติคืนละเกือบสองพัน แต่ช่วงนี้โลว์ซีชั่น แล้วคนพามาพัก ก็เป็นเพื่อนกันกับทางรีสอร์ท เลยลดให้เราต่ำกว่าครึ่ง เหลือคืนละห้าร้อยบาทเอง
............
...เออแฮะ
เที่ยวหน้าโลว์นี่ดีไปหมดเลยแฮะ
วันหลังจะไปอีก :)
..........
ด้านหลังกระท่อมทีพักเราเป็นทุ่งกว้าง ทุกวันจะมีวัวขาว วัวลาย วัวดำ มาเล็มหญ้าเป็นพล็อบหรืออุปกรณ์ประดับฉากอยู่เรื่อย ใครโรแมนติกหน่อย ก็จะได้เห็นตอนวัวขี้สดๆ ด้วยนะ เป็นภาพสวยงามตา สามารถถ่ายภาพมาทำโปสการ์ดได้ด้วยนะ ขี้วัวเวลาถ่ายโคลสอัพหน่อย หามุมถ่ายเป็นรูปหัวใจก็ได้นะ ฮ่าฮ่า
......
บางวันฝนตกแรง ด้านหลังที่พักเราก็จะมีกบเขียดร้องระงม บางทีร้องหนักจนนอนไม่หลับ ยิ่งคืนไหนปายไฟดับทั้งเมือง เสียงกบเขียดยิ่งดัง ยิ่งแข่งกันตะเบ็ง
...
เอ หรือว่ายิ่งมืด เสียงมันยิ่งดังหว่า
ทฤษฎีอะไรล่ะนี่ :)
...
เสียงกบเขียดมันดังมาก หรือเป็นเพราะเรามาจากในเมือง จึงไม่ค่อยคุ้นกับเสียงเจ้าของท้องถิ่นตัวจริงแบบนี้ บางทีเคลิ้มๆ กำลังจะหลับ ยังนึกว่ากบมันจะโผล่หน้าต่างเข้ามางับหัวถึงหมอนซะงั้น!
ก็เลยสงสัยว่าฉันจะไม่ได้รักกบ รักเขียด หรือรักธรรมชาติเท่าไหร่
น้องๆ อย่าเอาเยี่ยงอย่าง! :)
...
ร้านหนังสือฟรีฟอร์ม
ร้านหนังสือในเมืองปาย
Last update : June,21-2009
หลายวันมานี้ ความสุขอย่างหนึ่งของฉัน นอกจากการจัดข้าวของลงกล่อง ลงกระเป๋า เพื่อโยกย้ายที่อยู่อีกครั้งแล้ว
อีกอย่างหนึ่งที่ฉันทำบ่อยระหว่างวัน พอๆ กับการวิ่งลงไปชงชาชงกาแฟที่ชั้นล่างของบ้าน นั่นก็คือการกางแบบพิมพ์เขียวการก่อสร้างโครงการ ที่ทางสถาปนิกเขาออกแบบไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ยิ่งดูแล้วดูอีก ฉันก็เหมือนจะเห็นมันเป็นรูปร่างชัดเจนขึ้นมาเรื่อยๆ
....
ความที่โครงการก่อสร้างนี้มีเพียง 6 ยูนิต และทางเจ้าของโครงการ ก็มีความประสงค์จะให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองปาย ที่มีสินค้าพวกงานแฮนด์เมด อาหารการกินโฮมเมด และอะไรต่อมิอะไรที่มิได้มีจุดประสงค์ผลิตขึ้นมาเพื่อการอุตสาหกรรรม
...
PAI--LOW SEASON, HIGH SPIRIT[ตอนที่
10]
รถส้ม ซ้มมมม....ส้ม
ของดีเมืองปาย-ห้ามพลาด!
Last update:June,20-2009
...
สิบกว่าปีก่อน สมัยที่ถนนเชียงใหม่-ปาย ยังไม่เนียบเรียบเหมือนผิวสาวหน้าใสเหมือนทุกวันนี้ ฉันไปถึงปายครั้งแรกในชีวิตกับเพื่อนๆพี่ๆ ชาวศิษย์สะดือก็ด้วยรถโดยสารสีส้มแบบนี้--กว่าจะถึงก็เกือบตาย
.........
เพื่อนๆพี่ๆเขาเที่ยวกันมืออาชีพ สมัยนั้นฉันยังใหม่มาก เพิ่งเข้ามาอยู่กรุงเทพฯใหม่ๆด้วยจึงไม่เค้ยไม่เคยจะคิดอยากเที่ยวต่างจังหวัดเลยสักนิด คราวนั้นถือว่าเป็นทริปจำใจ เลยยังจำ"จุดพักอ้วก"แถวแม่แสะได้จนตอนนี้
.............
ทุกวันนี้ หลายครั้งหลายคราวฉันเองไม่จำเป็นต้องพึ่งพารถส้มแบบนี้แล้ว เพราะปาย-เชียงใหม่-ปาย มีทั้งรถตู้หรือเครื่องบินให้เลือกใช้ แต่ถ้าไม่รีบเร่งมาก ฉันกลับไม่ยอมพลาดเลย ที่จะกลับด้วยรถส้มแบบนี้ ..แต่ขอเป็นขากลับอย่างเดียวนะ ขาไปไม่ต้อง :)
PAI--LOW SEASON, HIGH SPIRIT [ตอนที่
9]
Last update:June,19-2009
...
สำนวนจีนบอกว่า"ขี่ม้าชมดอกไม้"หมายถึงการใช้ความเร็วเกินไปมักจะพลาดสิ่งที่ไม่น่าพลาด การขี่จักรยานอาจจะพลาดน้อยกว่านิดนึงเพราะเราสามารถขี่กลับไปกลับมาตรวจสอบมันได้บ่อยๆ :) ใครอ่านอ่านหนังสือ'ปราย พันแสงมาบ้าง คงรู้ว่าความหลังเกี่ยวกับดอกไม้ของฉันนั้นมากมายเหลือเฟือ
ดอกไม้พื้นเมืองไม่เหมือนดอกไม้ในร้านจัดช่อกระเช้า มันในอารมณ์ความรู้สึกแตกต่างกัน ดอกไม้พื้นบ้านบางชนิดแทบไม่มีใครรู้จักชื่อมันเลย แม้ว่ามันจะอยู่ของมันอย่างนั้นมานานปี
...................
PAI--LOW SEASON, HIGH SPIRIT[ตอนที่
8]
Last update:June,18-2009
................
ความที่ปายเป็นเมืองเล็ก เมื่อพักอยู่นานวันเข้า เราอาจจะเริ่มทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวน้อยลง เช่นว่า ไม่ต้องนอนริมน้ำก็ได้นะ เพราะบางคืนเผลอนั่งเมาธ์กะเพื่อนในเมืองดึกไปหน่อย ขากลับต้องขี่จักรยานผ่านวัดเก่าแก่อายุเหยียบร้อยปีกลับที่พักคนเดียวเนี่ย มันก็...นะ ---ฉันเริ่มคิดใหม่ทำใหม่\
ถึงแม้พี่วัชจะสร้างความมั่นใจว่า "ปายไม่มีโจร ไม่มีโขมย" แต่..ผอ-สระ-อี-ผี อี๋ อี๋ อี๋ นี่ล่ะพี่ ไม่มีใครสร้างความมั่นใจให้ฉันได้ทั้งนั้น เพราะตอนเด็กๆ เคยเจอมาแล้ว
แค่ระวังตีน,กลีบหญ้า แล้วก้อ...ตะหลิว :)
Last update:June,17-2009
เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ฉันมีโอกาสไปร่วมเสวนาในงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ปี 2552 ที่ททท.จัดขึ้นที่อาคารชาแลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งมีการจัดขึ้นทุกปี-ผู้จัดงานเคยติดต่อเชื้อเชิญให้ไปร่วมงานทุกปีแต่ฉันก็ไม่ได้ไปร่วมกับเขาสักปี,แต่ปีนี้เลี่ยงลำบากเพราะทางททท.เป็นลูกค้าคนสำคัญของเรา ติดต่อว่าจ้างให้ทางทีมงานฟรีฟอร์มของเราเป็นผู้จัดทำเอกสารประชาสัมพันธ์งานนี้ด้วย
Last update : June,16-2009
ร้านเพิ่งเปิดใหม่ในปาย ชื่อร้าน "ละเลียด" เจ้าของร้านตกแต่งเอง โบกปูนเอง ชงกาแฟเอง ขายเอง ทำเองทุกอย่าง เจ้าของชื่อ คุณสหรัฐ วิไลเนตร ที่เคยกำกับภาพยนตร์เรื่อง "พันธุ์หมาบ้า"
\
..........................................
.............................
[ตอนที่ 5]
ปาย : เสน่ห์ในความแตกต่าง
หลากหลาย
...
ร้านฟรุตแฟคทอรี่-ร้านขนมไอติมโฮมเมดดังที่สุดในเมืองปายตอนนี้ ขนาดร้านอยู่กลางทุ่ง ฉันขี่จักรยานเข้าไป ต้องคอยหลบวัวอยู่หลายตัว กว่าจะถึง แต่พี่วัชบอกว่า หน้าไฮซีซันปีล่าสุด คนเยอะจนร้านแทบพังไปเลย เล่นเอาเจ้าของแทบช็อคไปเลย เพราะปกติทำกินทำขายสบาย
[ตอนที่ 4]
...
บินสู่ปาย จากเชียงใหม่-ปาย หรือปาย-เชียงใหม่ ใช้เครื่องบินเล็ก ค่าตั๋วที่ละประมาณ 1900 กว่าบาท จองตั๋วก็ไม่ยาก แค่โทรไปแจ้งเที่ยวบิน แจ้งหมายเลขบัตรประชาชนและหมายเลขบัตรเครดิตเอาไว้ ถึงเวลาเชคอินค่อนเอาบัตรไปรูดจริง ก็ใช้งานได้แล้ว ไม่ต้องกรอกโน่นนี่หรือต้องรอรับโค้ดเหมือนการจองออนไลน์เที่ยวบินอื่นๆ ทั่วไป เวลาเร่งด่วน เวลาไปกับแฟนที่เพิ่งออกเดทกันใหม่ๆ :) หรืออยากมองปายจากมุมสูงบ้าง ถ้ามีโอกาสอยากให้ลองสักครั้งนะ เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมจริง
[ตอนที่ 3]
..........
รู้มั้ย ที่ปายนี่ไม่มีโขมยนะ" พี่วัชบอกฉันอย่างนั้น --พี่วัชไม่ใช่คนอื่นคนไกล เป็นญาติมิตรสำนักศิษย์สะดือ-ไปยาลใหญ่ อดีตคนทำโฆษณาที่โยกย้ายไปอยู่เมืองปายได้สิบกว่าปี
...
ปัจจุบัน พี่วัชกับพี่แอ้ม -คนรักของเธอที่โยกย้ายจากกรุงเทพฯไปด้วยกัน มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน ที่วาดรูปขายเป็นว่าเล่นชื่อ "น้องบางกอก"
...
พี่วัชบอกว่าน้องบางกอกส่งเสียตัวเองเรียนหนังสือ และมีเงินเก็บสี่หมื่นกว่าบาท ซึ่งเป็นเงินจากการขายภาพเขียนของตัวเองทั้งสิ้น
...
พี่วัชและครอบครัวใช้ชีวิตอยู่ในเมืองปายอย่างปกติสุขมาจนทุกวันนี้ ทุกคนที่ไปเมืองปายรู้จักพี่วัชในฐานะเจ้าของร้านกาแฟที่ดีที่สุดในเมืองปาย คือร้าน All About Coffee ที่ฉันได้อาศัยฝากผีฝากไข้ในทุกเช้า หรือบางวันก็บ่ายๆ อีกแก้ว
..
กาแฟร้านเธอสุดยอดจริงๆ นะ ขอบอกเลย
..
พี่วัชนี่เอง ที่เป็นคนโทรศัพท์ไปตามฉันให้รีบขึ้นมาที่ปายให้เร็วที่สุด "อาคารหกยูนิตที่พี่บอกวันก่อน ตอนนี้เหลือแค่สองแล้วนะ ให้รีบขึ้นมาเร็วๆ เลย เดี๋ยวจะไม่ทัน"
...
ฉันจึงมีโอกาสได้เที่ยวปายในช่วงโลว์ซีซันเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา ก็ด้วยเหตุนี้เอง
...
PAI--LOW SEASON, HIGH SPIRIT[ตอนที่ 2]
ปาย(เขาว่า)เปลี่ยนไป..
จะยังไงฉันรักเธอไม่เปลี่ยน
Last update : June,12-2009
"ปายมันเละแล้วแกจะไปทำไม หา!"...........
ฉันเคยเจอคนที่เรียกตัวเองว่า"นักเดินทาง" ปกติคำนี้ไม่ว่าได้อ่านหรือฟังที่ไหน ฉันมักเกิดอาการจั๊กกะเดียมคันคะเยอแบบเฉียบพลันไปทั้งมือและเท้าอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอกันซึ่งหน้าๆ ทำท่าจีบปากจีบคอ ลอยหน้าลอยตาเรียกตัวเองว่า"นักเดินทาง"แบบนี้ด้วยแล้ว ยิ่งคันยิบยิบชนิด"เสลดพังพอน"หรือ"คาลาไมน์"ทั้งขวดเอาไม่อยู่เชียวล่ะค่ะคุณ-ขอบอก :)
...
"นักเดินทาง"คนนี้นะแปลกมากเลย เวลามีใครพูดถึงสถานที่ซึ่งคนนี้เคยไปมาแล้ว ไม่ว่าใครจะพูดอะไรประเด็นไหน "นักเดินทาง"จะแย่งพูดแย่งเล่าเรื่องตัวเองไปได้เสียทุกเรื่อง
...
ถ้าเราเผลอหลุดปากบอกไปว่าเรามีโครงการจะไปที่แห่งนั้นเหมือนกันในเร็วๆนี้ด้วยล่ะก็--บอกได้เลยว่านั่นคือความผิดพลาดอย่างมหันต์ ...ความซวยมาเยือนกบาลเข้าแล้วจริงๆแล้วคุณเอ๋ย อาจจะต้องไปซื้อโลงศพบริจาคหรือสะเดาะเคราะห์ทำสังฆทานล้างซวยกันขนานใหญ่
..
ถ้าคุณต้องพลาดท่าเสียทีซะขนาดนั้น "นักเดินทาง"จะมีคำแนะนำล้านเจ็ด เกี่ยวกับสถานที่ซึ่งคุณกำลังจะ-ไป ต้องงั้น ต้องงี้ ห้ามนั่น ห้ามนี่ ตรงนี้ห้ามพลาดเชียวนะ ดั๊นเรคคอมเมนด์..ทำนองนั้น
PAI--LOW SEASON, HIGH SPIRIT
[ตอนที่ 1]
'ปาย'ฝันที่ไม่ได้ฝัน
...กลางฤดูฝน
Last update : June,11-2009
.............
เรายังต้องหาวิธีทำงานให้ฉลาด ๆ ซึ่งอาจจะไม่ได้หมายถึงงานหนัก
......
เรายังต้องระแวดระวังทุกอย่างด้วยความเข้มงวด ซึ่งไม่ได้หมายถึงความเค็ม ไม่ได้หมายถึงการเอาเปรียบคนอื่น แต่หมายถึงการใช้ทรัพยากรทุกอย่างของโลกให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด
...
ฉันรู้สึกขอบคุณผู้คนรอบกายที่คอยช่วยเหลือเอาใจใส่ ขอบคุณสิ่งที่ชีวิตมอบให้เป็นอย่างยิ่ง ที่ให้โอกาสฉันได้ทำงานที่รัก ให้ฉันได้มีโอกาสเลือก"ระยะ"ของชีวิต โดยที่ทุกอย่างยังสามารถดำเนินไปได้ด้วยดี...อย่างที่มันควรจะเป็น
..
เมื่อคุณใช้ชีวิตบนโลกนี้มาสักช่วงหนึ่ง ผ่านพบความเป็นไปของโลกมาแล้วพอสมควร คุณจะรู้เลยว่า ชีวิตคนเรานั้นไม่ต้องการอะไรมากมาย นอกจากแค่อยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองของมัน แค่อยากให้ทุกอย่างอยู่ในที่ทางของมัน โดยไม่ต้องรีดเค้นจากตัวเองหรือใครให้มากมาย
...
ฉันเชื่อว่าถ้าเรายืนอยู่บนความถูกต้อง ดำเนินชีวิตอยู่ในครรลองที่เหมาะสม ทำหน้าที่เต็มความสามารถ ...ชีวิตก็จะแสวงหาจุดสมดุลให้เราเอง ไม่ต้องดิ้นรนไขว่คว้าให้วุ่นวาย
...
สองสามเดือนแห่งความดื้อ
จึงเป็นช่วงเวลาแห่งการเดินตามครรลองของชีวิตฉันโดยแท้