last update :Dec ,21-2009
วันก้าวถอยหลัง
จุดเริ่มต้นแห่งความเฉื่อย?
...
วันอาทิตย์ 20 ธันวาคม 2552 วันนี้เป็นวันแรกในรอบหลายเดือนมานี้ ที่ฉันไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนเลย ไม่ไปร้าน ไม่ไปไหนเลย โอ้ เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน หลายวัน เพราะฉันมักมีเหตุต้องออกจากบ้านตลอดเวลา วันนี้อยู่บ้านได้ทั้งวัน เลยรู้สึกมีอิสระเสรีสุดๆ
...
หิวขึ้นมาก็คุ้ยเขี่ยอาหารที่มี กินทุกอย่างที่มีอยู่ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นมะขามหวาน เค้กกล้วยหอม ปลากรอบจิ้งจัง สาหร่ายทะเลเถ้าแก่น้อย ขนมลูกเต๋า กูลิโกะป๊อกกี้ ฯลฯ
..
กล่าวคือ ของกินทุกอย่างที่เคยซื้อมาทิ้งๆ ไว้ในบ้าน
ดูแล้วถ้ายังไม่หมดอายุ ก็จะต้องมาลงกระเพาะเราหมดงั้นเถอะ
..
ฉันนึกถึงคำพูดของฮารูกิ มูราคามิ ที่บอกว่า "พวกเราเป็นสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์ที่ต้องลุกมาคุ้ยเขี่ยหาอาหารในตู้เย็นตอนดึกๆ"
...
แต่ความจริงแย่กว่านั้นคือ ตั้งแต่มาอยู่ปายสี่ซ้าห้าหกเดือนมานี้ ฉันแทบไม่เคยซื้อของมาแช่ตู้เย็นเลย นอกจากนมถั่วเหลืองสองสามกล่อง กับโค้กร้อยแปดชาติ กระป๋องสองกระป๋องที่ไม่เคยดื่มหมดสักที
..
แม้กระทั่งน้ำดื่ม ก็ไม่เคยเอาไปแช่เลย
...
วันนี้ งดออกจากบ้านโดยไม่ได้วางแผนมาก่อน ไม่รู้สิ มันขี้เกียจออกมาเสียอย่างนั้น นอนจนเบื่อ รู้สึกหิวก็เริ่มมาคุ้ยเขี่ยหาดูว่ามีอะไรกินได้บ้าง ก็พบว่า วันนี้ถึงไม่ออกจากบ้าน ก็คงยังไม่อดตายนักหรอก
...
โดยเฉพาะมะขามหวานนั้น เป็นสุดยอดไฮไลท์ของวัน เพราะฝักมะขามกำลังเริ่มแห้ง เนื้อมะขามเขียวๆ ปนสีน้ำตาล กัดไปแต่ละคำนั้นอร่อยที่สุด ไม่เปรี้ยว ไม่หวานสนิทจนจืด แต่อร่อยกำลังดี บอกได้ว่าไม่เคยกินมะขามหวานอร่อยขนาดนี้มาก่อนงั้นเถอะ
..
นึกถึงคำพูดพ่อค้าผลไม้หน้าวัดหลวง ที่บอกกับฉันอย่างมั่นใจว่า "มะขามหวานมาก อร่อยมาก ถ้าไม่หวานไม่อร่อย ให้มาปาดคอผมได้เลย" เขาบอกอย่างนั้นจริงๆ ในใจยังนึกอยู่ว่า รับประกันความหวานได้โหดจริงๆเพ่!
..
วันนี้มีเวลาเช็คเมล์ ตอบเมล์อย่างเป็นเรื่องเป็นราวกับเขาบ้าง เข้าเช็ค yahoo เลยได้รู้ว่ามีคนเข้าไปฝากข้อความถึงฉันไว้ใน facebook เยอะแยะตาแป๊ะไก๋ จึงได้รู้ว่าคงถึงเวลาที่ฉันจะเข้าไปอัพเดทเฟชบุ๊คกับเค้าบ้างแล้วมั้ง คุณพระช่วย ตรูลืมรหัสผ่านไปด้วยหรือนี่ กว่าจะค้นหา กว่าจะนึกได้ ก็ใช้เวลาอีกพักใหญ่ เฟอะฟระจริงๆ นะตรูนี่ ชักอาการหนักแล้ว
...
มีน้องคนหนึ่ง ถามเรื่องหนังสือของจิมมี่ เลี่ยว ตายแล้ว หนังสือพิมพ์ไปตั้งนานแล้ว แถมไม่ได้เอามาที่ปายด้วย จะตอบได้ไหมเนี่ย ฉันก็กล้อมแกล้มตอบคำถามไปเท่าที่จำได้ เท่าที่ในหัวยังพอจะมีข้อมูลอยู่บ้าง
...
นอกจากนั้นก็แวะทักทายเพื่อนพ้องน้องพี่อีกหลายคน ที่ไม่เจอกันเสียนาน บางคนไม่ได้เจอกันหลายปี ฉันเขียนตอบ เขียนทักคนนี้ไปเรื่อยเปื่อย แต่จู่ๆเมื่อบังเอิญคลิกกลับมาอ่านที่ตัวเองเขียนไป ก็ใจหายวาบ จะเป็นลมตาย นี่ตรูสะกดคำผิดเยอะแยะขนาดนี้เชียวเรอะ โหยยยยยย แล้วเขียนในเฟซบุ๊คเนี่ยนะ
...
ฉันเริ่มรู้สึกมาพักใหญ่แล้วว่าฉันช้าลงมาก รู้สึกเหมือนว่าเวลากำลังเดินถอยหลัง ตัวฉันเองก็กำลังเดินถอยหลัง เหมือนเวลาของฉันที่ปาย มันช้ากว่าเวลาของหลายๆ คน
...
ฉันเคยคิดเคยมองอะไรได้ชัดเจน ปรุโปร่ง(ตามประสาตน)กว่านี้ เช่นบวกลบคูณหารเลขหลายๆหลักได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องคิดเลข เคยทำอะไรคล่องแคล่วว่องไวกว่านี้ แต่ตอนนี้ รู้สึกเหมือนตัวเองช้ามากเลยๆ แล้วก็ "หย่อน" ต่อกฏเกณฑ์ชีวิตบางอย่างจนไม่น่าจะอภัย
...
อาทิเช่น ช่างก่อสร้าง ช่างไฟฟ้า นัดกันไว้ดิบดีแต่แล้วก็ไม่ยอมมาทำงาน ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันจะตามติดล่าตัวในระยะประชิดจนกว่างานจะแล้วเสร็จ ฉันถือว่างานพวกนี้ไม่ใช่งานของคนๆเดียว แต่ถ้าคนๆเดียวเบี้ยว มันจะมีลูกชิ่งอีกหลายเด้งไม่รู้จบ เบี้ยวคนเดียว อีกสิบคนที่เหลือบางทีทำอะไรไม่ได้เลย
...
แต่หลังๆ มานี้ฉันปล่อยหมดเลย ช่างคนไหนไม่มาทำงาน ใครนัดแล้วไม่มาตามนัดฉันก็ไม่เคยโทรตาม แถมยังบอกใครๆ ว่า"แล้วก็แล้วกัน มาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น"
...
ในใจฉันรู้แล้วล่ะว่า การประกอบกิจกรรมใดๆ ก็ตาม ถ้ามีมากกว่าสองแล้วไม่รักษาเวลา ไม่รักษาคำพูดต่อกันแบบนี้ คงสร้างสรรค์อะไรที่มันมากกว่านี้ไม่ได้หรอก มันคงไม่เวิร์คหรอก สำหรับการทำงานร่วมกัน
...
ลำดับต่อไปก็คือต่างคนต่างทำของตัวเองไป
...
ด้วยความเข้าใจอย่างยิ่ง ไม่ได้ตำหนิใคร (แม้จะเป็นคนที่น่าตำหนิมาก อย่างเช่นคุณพี่ช่างทั้งหลาย)และพยายามทำใจ ว่าฉันมาอยู่ปายเพราะอยากอยู่สบายๆ ไม่อยากเร่งรัดเคร่งครัดกับชีวิตมากนัก แต่ฉันก็อดเสียดายไม่ได้ที่หลายอย่างน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ถ้าตรงเวลากันสักนิด
...
แถมฉันก็ยังเฉยๆ อยู่ได้แฮะ ไม่น่าเชื่อเลย
..
สงสัยฉันจะเฉื่อยลงไปมาก เฉื่อยจนน่าตกใจ
นี่ฉันกำลังจะสูญเสียสมรรถภาพอะไรสักอย่างไปหรือเปล่าเนี่ย
...... *นี่คือเสื้อยืดใหม่ของร้านค่ะ ไหนๆก็เฉื่อยได้ที่มาหลายเดือนแล้ว หลายวันก่อน ททท.เชิญไปพูดเรื่อง slow movement หรือ"พลวัตรแห่งความเฉื่อย"เป็นคุ้งเป็นแคว กลับมาเลยลองถอดความเฉื่อยของชีวิตมาแปะไว้บนเสื้อซะเลย ร้านเราทำเองสกรีนกันเอง ทำออกมาแบบละสองสามตัว เพิ่งออกมาได้สองสามวันนี้ หลายคนที่ซื้อไปบอกว่า "ชอบรูปหอยทาก" เราคนขายฟังแล้วก็อ้ะ ...คนซื้อนี่ก็ใช้ได้เหมือนกันนะ ชอบทั้งที่ไม่รู้มาก่อนเลยว่า หอยทากนี้คือสัญลักษณ์สำคัญของ"เฉื่อยมูฟเมนต์"ทั่วโลก --นะ มาเฉื่อยกันบ้างก็ดีเหมือนกันนะ !