ก๊อก ก๊อก ก๊อก
คุณเคยโดนหลอกหรือเปล่าคะ :)

...
ความเบ๊อะไม่เข้าใครออกใคร ....
เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นในวันเปิดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ (ครั้งที่ 13,11-23 ตุลาคม 2551) หลังจากฉันแวะเวียนไปบูธฟรีฟอร์ม (D 03) ที่แอบอิงแนบชิดอยู่กับเพื่อนร่วมวิชาชีพที่แสนจะมีน้ำใจกับพวกเราอย่างสำนักพิมพ์ปราชญ์เปรียว จับโน่นย้ายนี่ ติชมบูธเราหอมปากหอมคอ ฉันก็รีบจรลี
...
อันที่จริงอยากอยู่ช่วยขาย (สารภาพค่ะว่าฉันชอบขายหนังสือ ชอบคุย ชอบถามคนซื้อว่าเขารู้จักหนังสือได้อย่างไร จากที่ไหน เคยอ่านอะไรมาบ้างฯลฯ )
...
แต่ความที่บูธเราเล็กๆ คนในบูธก็เยอะจริงๆ (ทั้งคนซื้อและคนขายน่ะนะ) ฉันก็เลยคล้องกล้องตัวเก่าเดินตระเวนถ่ายบูธต่างๆ ในแพลนนารี่ ฮอลล์ ของศูนย์ประชุมสิริกิติ์ อย่างเบิกบานสราญใจ กะว่าวันนี้จะอัพบล็อกให้ได้อย่างเด็ดขาด ตั้งใจจะเอารูปจากงานมาลงแบบสดติ๋งๆ ทีเดียวเชียว
...
ทว่า... ทว่า
ไหงเปิดกล้องมา ไม่ยักกะมีรูป
ไม่มีเลยสักนิด
ไม่มีแม้แต่รูปเดียว
เรื่องของเรื่องก็เพราะฉันลืมใส่แผ่นเมมโมรี่สติ๊กซะงั้น
...
กล้องนะกล้อง ใช้งานมาตั้งหลายปี แต่เพิ่งรู้ว่ากล้องไม่มีเมมโมรี่สติ๊ก ก็ยังสามารถกดชัตเตอร์ถ่ายได้ตามปกติอย่างเมามันซะงั้น
...
ป๊าดดดด โธ่! จะว่าไป ก็คล้ายคนเหมือนกันนะ แบบว่าหลอกให้เราจัดองค์ประกอบอยู่นั่น กดชัตเตอร์อยู่นั่นแล้ว
...
ทั้งๆ ที่จริงๆ ถ่ายอะไรไม่ติดเลยสักอย่าง มาตั้งน้านนนน นานนนแล้ว
...
ว่าแต่ว่า คุณล่ะเคยโดนคน เอ๊ย...กล้องดิจิตอลหลอกเอาบ้างหรือเปล่าล่ะคะ :)
..............
หน้าตาบูธเราเป็นอย่างนี้ค่ะ (ถ่ายเมื่อสามวันต่อมา)
ถ้ามีโอกาสผ่านมาผ่านไป แวะเวียนมาจับต้องหนังสือกันบ้าง พวกเราก็คงปลื้มกันแล้วล่ะค่ะ
...............
พระเอกนางเอกของฟรีฟอร์มสำนักพิมพ์ปีนี้ค่ะกระเป๋าน่ารักมั่กๆ นะคะ เราสั่งทำสายยาวๆ สำหรับสะพายกำลังเหมาะ
เพราะแขนจะเราจะปิดปากกระเป๋าสนิทพอดี
เวลาสะพายไปไหนมาไหนจะได้ไม่ต้องผวามือที่สาม :)
บอกได้เลยว่า 'ปราย พันแสง ภูมิใจเสนอสุดๆ อะค่ะ :)
เสียดายว่าแมกกาซีนฟรีฟอร์มเล่มใหม่ยังพิมพ์ไม่เสร็จ เพราะในเล่มจะมีคำตอบ
ว่า ทำไมต้องเป็น love more than ever
...สาวๆ กลุ่มนี้มาหลังสองทุ่มแก่ๆ มากแล้ว คนเริ่มซา เลยเลือกหนังสือสบายกว่าช่วงบ่ายๆ เย็นๆ
....
... ปกติ ฉันไม่ค่อยชอบร้านรกๆ หรือยุ่งๆ (ก็เลยมักชอบเข้าร้านบูธส์ บ่อยกว่าร้านวัตสันไง)
แต่งานนี้ทำให้รู้สึกว่า รกๆ เนี่ยก็น่ารักดีเหมือนกันนะ :) แบบนี้เขาเรียกว่า
กำลังพยายาม "รักในสิ่งที่มี" ใช่มะเนี่ย
...
..........
............
....
....
หลายคนลงชื่อและจ่ายเงินไว้ตั้งแต่วันแรก จ่ายเงินซื้อทั้งๆ ยังไม่เห็นหนังสือเลยสักนิด บางคนตัดโฆษณาสำนักพิมพ์ของเราจากนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์เดินมาหาหนังสือที่บูธเลย โอ้โหสุดยอด!
...
วันนี้ (14 ต.ค.) ตอนค่ำๆ ฉันไปช่วยน้องที่บูธยืนขาย ได้อธิบายให้น้องผู้ชายกลุ่มหนึ่งถึงเนื้อหาของหนังสือแต่ละเล่ม
...
พอมาถึงอะ เยียร์ อิน เดอะ แมร์ด ฉันบอกว่า "เล่มนี้นะคะ คุณมนันแปลไปหัวเราะไป"
...
ปรากฏว่าน้องๆ กลุ่มนั้น ซื้อไปสองเล่ม
ทำเอาฉันปลื้มมมมมมมมม...
ได้อีกแหละ
(ความสุขเล้กกกกก เล็ก ประจำวัน)
....
พอคล้อยหลังน้องเหล่านั้นแล้ว ฉันว่าจะแว้บไปดูหนังสือที่ร้านเอเชีย บุ๊คส์ ที่อยู่ใกล้ๆ กันสักหน่อย ก็ปรากฏว่ามีพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง น่าจะอายุราวๆ สักห้าสิบกว่าแล้ว ไม่รู้ว่าแกยืนอยู่แถวนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แกสะกิดถามฉันว่า "เล่มไหนนะ ที่เมื่อกี๊บอกว่าคนแปล แปลไป หัวเราะไป"
...
อ๊ะ อ๊ะ ได้เลยพี่ ฉันหยิบอะ เยียร์ อิน เดอะ แมร์ด ส่งให้ "เล่มนี้ค่ะพี่ เพิ่งมาเมื่อวานนี้เองนะคะ ขายดีมากเลย" ปรากฏว่าพี่เค้าถามราคาแล้วยื่นเงินให้ "เอาเล่มนึง" ทอนเงินเสร็จพี่เค้าก็ถือหนังสือเดินลิ่วไปเลย ทิ้งให้ฉันยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่หน้าบูธอีกหลายวิฯ
...
คนอ่านหนังสือเนี่ย
น่ารักดีเนอะ!
ฉันชอบขายหนังสือก็เพราะแบบนี้เอง :)
...
แต่น้องมี่ที่ไปช่วยขายหนังสือตอนช่วงบ่ายอยู่หลายวัน บอกว่า "บางคนเค้าเข้าบูธมาแล้วหยิบหนังสือขึ้นมาดมๆ ด้วยนะพี่"
...
ฮ่า !
ดมหนังสือนี่ยังไม่เจอนะ :)
แต่เอาเถอะค่ะ ถ้าคุณแวะมาบูธเราแล้ว จะทำอะไรกับหนังสือของเราก็ทำไปเถิด ทำได้ทุกอย่างตามใจ จะดม จับต้อง หรือปลุกปล้ำตามอำเภอใจ เราไม่ว่ากันอยู่แล้ว :)
....
........
.................
ที่แปะไว้ข้างฝาบูธ เป็นใบปลิวของสำนักพิมพ์ฟรีฟอร์มที่แจกในงานค่ะความที่โรงพิมพ์เพิ่งเอามาส่ง น้องๆ ในบูธก็สาละวนขายหนังสือกันมือเป็นระวิง
ฉันเข้าไปบูธตอนบ่ายอีกวัน เจอห่อใบปลิวพอดี เลยแกะออกมา
แล้วยืนแจกคนที่เดินผ่านไปผ่านมาหน้าบูธ ปรากฏว่าน้องในบูธขำกันใหญ่
สักพักมีเสียงตะโกน "วันนี้'ปราย พันแสง มาแจกใบปลิวอยู่ที่บูธ D 03 แล้วนะคะ"
เล่นเอาสะดุ้งเฮือกสุดตัว ก่อนจะปล่อยก๊ากฮากระจายทั้งคนแจกและคนรับ
...
แฮ่ ถ้าคุณผ่านมาผ่านไป เห็นใครยืนแจกอะไรประมาณนี้อยู่ล่ะก้อ
โปรดอย่าได้แปลกใจ :)