..........
................
บทรำพึง...คิดถึงคนบางคน
ที่กำลังจิบไวน์อยู่บนฟ้า
............
......
I do not love you
except because
I love you *
Please.....:)
Last update: July,06-2009
......................
............
สามสี่ปี่ระหว่างตัวฉันกับบล็อกนี้
ถือว่าไม่น้อย
มีคนถาม "ว่างนักหรือไง อัพบล็อกซะบ่อย"
เคยตอบไปว่าเพราะไม่ค่อยว่างไง
เลยต้องอัพบ่อยๆ เพื่อไม่ให้ลืม
ว่าวิธีเขียนหนังสือนั้นเป็นยังไง
ตามคำเชิญชวนครั้งแล้วครั้งเล่าของบก.ที่เคารพ
ก็เกรงว่าจะไปทำให้เขาเสียเวลาเรื่องรอต้นฉบับ
ที่เอาแน่นอนไม่ค่อยได้ของเราเสียเปล่าๆ
เพราะบางวัน คอนโทรลเวลาชีวิตตัวเองไม่ได้เลย
ก็เลยไม่อยากผูกมัดใคร หรืออะไร
ให้มันเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนั้น
เขียนบล็อกไม่ได้สตางค์ แต่ได้แฟนหนังสือใหม่ๆ
แถมได้อิสระเสรีในการเขียนมากมายล้นพ้น
ทำให้ฉันค้นพบเรื่องใหม่ๆ แนวทางใหม่ที่จะเขียนอีกมากมาย
เอาไว้ค่อยดูกันไป :) เรื่องพวกนี้พูดมากไม่ดี
มีตัวหนังสือเป็นต้นฉบับ"ต้นๆ" อยู่ในมือเมื่อไหร่
ค่อยว่ากัน
..
การเขียนบล็อกของฉัน ก็คือการเติมน้ำมันเครื่อง
คือการเคาะสนิม เช็ดถู ปัดกวาดหยากไย่ในในความคิดน่ะ
แต่ก็ขำคนอ่านเหมือนกันนะ
พออัพทุกวัน ดันอ่านไม่ทันเสียนี่
อย่างพอกลอนเนี่ย พูดอยู่เรื่อยว่าเขียนยาว
พี่เขียนยาว เอ็งก็อ่านสั้นๆ อ่านแค่ที่อยากอ่านซิวะ
พยายามหน่อยดิ๊
...
นักเขียนคนหนึ่ง
คนอ่านถามว่า "คุณเขียนอะไรเนี่ย อ่านยากจังเลย"
คนเขียนก็เลยบอกว่า
"ไม่เป็นไรหรอกที่อ่านยาก
เพราะตอนเขียนก็ยากเหมือนกัน" :)
...
ถ้าถามฉัน ถ้าใครมีปัญหาเรื่องการอ่านนะ
บอกได้เลยว่า "อย่าอ่าน"
ไปตีกอล์ฟ เตะตระกร้อ หรือแช็ทสาว
อย่ามาเสียเวลาลำบากลำบน
...
ใครเขียนหนังสือมาบ้างจะรู้
เวลาไม่ได้เขียนอะไรนานๆ มันจะฝืด
อาปุ๊-'รงค์ วงษ์สวรรค์ เคยพูดกับฉันว่า
"ตอนอาหนุ่มๆ นะ
อาเขียนชิบหาย คิดอะไรหน่อย
แล้วก็เขียนออกมาได้มหาศาล บางทีกลับไปอ่าน
ยังรู้สึกว่ามันต้องแก้ตรงนั้น แก้ตรงนี้
คือสมัยหนุ่มจะแรงดี
แต่งานเขียนอาจจะไม่ค่อยดีเหมือนตอนแก่"
...
ฉันก็ว่า
แต่อาปุ๊ตอนนั้นนั่งรถเข็น
มาร่วมงานหนังสือมติชนที่เชียงใหม่ตอบฉันว่า
"ตอนแก่นี่ ความคิดดีๆ มันเยอะก็จริง
แต่ไม่ค่อยมีแรงเขียนว่ะ"
:)
...
พูดถึงเขาแบบนี้ ...นะ
ยิ่งคิดถึง...
รู้สึกคิดถึงเขานะ ...'รงค์ วงษ์สวรรค์
คนอะไรฟระ ตายแล้วยังคมกริบ
คมชิบ---คมวายป่วงเลย
....
.....
ตอนอายังมีชีวิตอยู่
ตอนนั้นฉันเพิ่งเปิดบริษัทใหม่ๆ
แต่อายังเขียนจดหมาย
วันหนึ่ง พอฟรีฟอร์มเริ่มตั้งหลักได้
ก็เลยเริ่มคุยกับอาอีกครั้งเรื่องหนังสืออา ที่เราจะเอามาทำกัน
แต่---ยังไม่ทันได้ทำอะไร
..............
ตอนนี้ก็เลยต้องทำกันไป โดยหวังแค่ว่า
อาจะเอาใจช่วยอยู่ตรงไหนสักที่ :)
ทำเท่าที่มี เอาให้มันดีที่สุด
เท่าที่กำลังทรัพย์อันน้อยนิดของฟรีฟอร์มจะทำได้
หรือถ้าจะให้ดี อามาเข้าฝันบอกหวยสักงวด
รับรองว่าหนูจะพิมพ์งานอาให้มันดี ให้มันงาม
ให้มันเป็นตำนานระเบิดระเบ้อไปเลยเนี่ย ฮ่า
...
แต่เรื่องหวยเนี่ย
เพื่อนฉันที่อยู่กับอาปุ๊ตลอดในช่วงวาระสุดท้ายชีวิตบอกฉันว่า
"ถ้าแกจะขออา แกขออย่างอื่นเถอะ
แต่ถ้าขอหวยคงไม่ได้--- เพราะอาไม่ชอบ"
..
ฉันฟังแล้วก็ขำก๊าก
---นะ เป็นงั้นไป
แต่ไม่แน่หรอก
ว่านักเขียนเนี่ย ทุกคนเลยในโลกนี้
เป็นกลุ่มคนที่สมควรจะถูกหวยถูกล็อตเตอรี่มากที่สุดเลยนะอานะ :)
เพราะหลายคนเนี่ยก็ทั้งเก่งทั้งดี
กว่าจะเขียนจะแปลหนังสือได้แต่ละเล่ม
มันลำบากจะตายนะอานะ
...
ฉันเองเกิดมาไม่เคยถูกหวย
ทุกอย่างที่ได้มาในชีวิตก็ด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย
ถ้าขอหวยไม่ได้---หนูก็สงสัยไม่มีอะไรจะขออาหรอก -ฉันนึก :)
ช่วงนี้ฉันกำลังสนุกเพลิดเพลินกับร้านหนังสือที่ไม่ได้ฝัน :)
เพราะมันเป็นร้านที่ไม่ได้ฝันมาก่อนว่าจะได้ทำเร็วขนาดนี้
ก็เลยหาความฝันตรงโน้นตรงนี้
ส่วนหนึ่งคือการรวบรวมคำพูดหรือคอมเมนต์ของคนแถวนี้นั่นเอง
ช่วงนี้ ใครเข้าบล็อกแล้วเจออะไรแปลกหูแปลกตาไปบ้าง
มันคือการรื้อของ ค้นบ้านครั้งใหญ่
ซึ่งฉันก็พบว่า ---ฉันควรจะต้องจ่ายค่าตอบแทน
เพราะว่าใช้พิ้นที่เของเค้าเก็บสมบัติล้ำค่าไว้เพียบเลย :)
...
ส่วนที่มีค่าที่สุดในบล็อกนี้
ไม่ใช่ถ้อยคำของฉัน
แต่เป็นของคุณค่ะ
มันไม่ใช่แค่คำพูดที่สวยงามหรอกค่ะ
ฉันรู้ว่าหลายหมื่นคำ