คืนหนึ่ง
กับสองหนุ่ม (ครึ่ง)
freeform
cover man
.........
....
ฉันและทีมงานฟรีฟอร์ม ไม่มีทางจะพลาดงานนี้ได้อย่างเด็ดขาด เนื่องจากเจ้าภาพล็อคคอตีเข่าเอาไว้ทุกกรณี ทั้งที่ตอนแรกฉันลังเล เพราะมีนัดสำคัญ แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจยกเลิกโปรแกรมไปงานแต่งงานของน้องหน่อยสุดที่รัก เพื่อมาร่วมงานนี้โดยเฉพาะ นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าจะเสียดายมั่กๆ ที่ไม่มีโอกาสได้เห็นตัวจริงเจ้าบ่าวของหน่อยก็ตาม (ดูรูปการ์ตูนในการ์ดไปก็แล้วกันนะ)
ในงานเลี้ยง มีโอกาสได้รู้จักพบเจอบุคคลที่น่าสนใจมากหน้าหลายตา ฉันและทีมฟรีฟอร์มก็เลยจัดการล่าตัวเป็นรายบุคคลเพื่อนัดสัมภาษณ์ลงฟรีฟอร์มในเล่มต่อไป บางรายอยู่เมืองไทยมานาน ทำมาหารับประทานกับประเทศเราอย่างเป็นล่ำเป็นสัน บางรายเข้าขั้น "ตัวแสบ" สำหรับความเป็นไทยอย่างร้ายแรงเสียด้วย แต่พวกเราไม่ค่อยได้รู้จักกันเท่าไหร่เลย โปรดอย่าพลาดฟรีฟอร์มเล่มต่อไป (ขายตรงเลยนะเนี่ย) รับรองว่าน่าสนใจจริงๆ ค่ะ
มิสเตอร์ลาบูร์ธ เพิ่งมารับตำแหน่ง และมางานนี้โดยแทบจะไม่รู้จักใครเลย (ฝรั่งเด๋อก็เป็นนะคะ) ทั้งๆ ที่งาน The Place & The Plate เป็นงานของสถานทูตฝรั่งเศสแท้ๆ เจ้าภาณุ บ.ก.ฟรีฟอร์ม บอกว่าเจอมิสเตอร์ลาบูร์ธยืนอยู่เงียบๆ คนเดียว กลัวเหงา เลยพามาแนะนำตัวกับพวกเราซะงั้น
ตอนพามาโต๊ะเรานั้น พี่เจี๊ยบกำลังคุยเมามันเกี่ยว Exhibition ชุดใหม่กับพวกเรา เป็นนิทรรศการเก๋มั่กๆ ของ “คุณป้ำ” สถิตย์ ศัสตรศาสตร์ ผู้กำกับหนังสั้น หน้าตาของงานอยู่ในโปสการ์ดแผ่นนี้ค่ะ
ฟรีฟอร์มยังมีบางโปรเจคท์ที่ยังเกี่ยวพันกับองค์กรฝรั่งเศสอย่างต่อเนื่อง จากการที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับชาวต่างชาติต่างวัฒนธรรมมาบ้าง ยอมรับว่าหลายอย่างก็ขลุกขลักใช้ได้ทีเดียว กระทั่งว่าสคริปต์บนเวที ใครพูดก่อนพูดหลัง ยังต้องงัดวิทยายุทธ์มา “สู้” กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ด้วยความแตกต่างด้านความคิดและวัฒนธรรม การทำความรู้จักทักทายกันแบบไม่เป็นทางการเช่นนี้ สร้างความรู้สึกที่ดีให้เราประมาณหนึ่ง อย่างน้อยคงดีกว่าต้องเจอกันครั้งแรกในห้องประชุมแล้วกระโดด “สู้” กันเลยอย่างแน่นอน
คงจะด้วยฤทธิ์ไวน์กะข้าวมันไก่ของเจ้าภาพเป็นแน่แท้ ฉันจึงจำไม่ได้เลยว่าเริ่มคุยกับคุณไมเคิล เชาวนาศัย นายแบบเกย์บนปกสุดเซ็กซี่ของฟรีฟอร์มเล่ม 7 ตั้งแต่เมื่อไหร่ จนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองหัวเราะไม่หยุด กับสารพัดเรื่องเล่าของคุณไมเคิล
....
หลายวันมานี้ โน้ตบุ๊คเจ๊งกระบ๊งค่ะ เมนบอร์ดมีปัญหา ฮาร์ดดิสค์น่าเป็นห่วง ต้องเข้าโรงซ่อมนานๆๆๆหลายวัน ใจแทบขาด เพราะทุกอย่างในชีวิตอยู่ในนั้น เพิ่งได้คืนกลับมาวันนี้เอง กำลังสำรวจอยู่เลยว่าเหลืออะไรติดมาบ้าง ใครติดตามแถวนี้ต้องขอโทษด้วยนะคะ ขาดตอนไปนิดนึง แต่กำลังจะคืนสภาพเดิมแล้วล่ะค่ะ
All Rights Reserved.
2007 Copyright©'prypansang
..คนอ่าน